วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2562

Last Christmas #MarkJin


-L A S T C H R I S T M A S-




‘ Last Christmas, I gave you my heart
But the very next day you gave it away
This year, to save me from tears
I’ll give it to someone special ‘

‘ คริสต์มาสครั้งที่แล้ว ผมมอบหัวใจของผมให้แก่คุณ
แต่วันต่อมา คุณกลับทิ้งมันไป
ปีนี้ ผมจะไม่เสียน้ำตาให้คุณอีก
ผมจะยกหัวใจของผมให้กับบางคนที่แสนพิเศษแทน ‘

####

“อาทิตย์หน้าคริสต์มาสเเล้ว มีเเพลนไปไหนไหม?” เพื่อนตัวสั้นเอ่ยถามเขาหลังจากที่ตัวเองเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้านในเวลาเลิกงานเป๊ะ

มาก็ตรงเวลากลับก็ตรงเวลา พนักงานดีเด่นอะไรเบอร์นี้

“ไม่มีอะ กลับบ้านนอน” ปาร์คจินยองตอบพลางยักไหล่ คนตัวบางเริ่มจัดการกับข้าวของบนโต๊ะทำงานของตัวเอง

“มึงควรเลิกทำตัวเฉื่อยชาได้เเล้วนะ คุณเอ็มเขารอคิวอยู่นี่ ไม่ลองไปกับเขาดูล่ะ”

“ไว้คิดอีกที” จินยองตอบส่ง ๆ พลางจัดรวบเอกสารรวมไว้ที่เดียวกันอย่างคล่องเเคล่ว

“ตามใจ คนดี ๆ เข้ามาเนี่ยปัดทิ้งหมด”

ร่างบางถลึงตาใส่เพื่อนก่อนจะใช้ขาเตะตูดเเบน ๆ ของหวังเเจ็คสันไปหนึ่งทีอย่างหมั่นไส้

หมั่นไส้ที่มาพูดความจริงตอกหน้ากันเเบบนี้ไง

“กูก็ไม่ได้ชอบคนเหี้-ยไหม” จินยองบ่นเบา ๆ ก่อนจะถอนหายใจเเล้วจัดเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้านบ้าง

วันคริสต์มาส เทศกาลเฉลิมฉลองในวันประสูติของพระเยซู มีเรื่องเล่าของซานต้าครอสที่เป็นลุงอ้วนพุงพลุ้ยหนวดเฟิ้มในชุดสีเเดงกับหมวกทรงเเหลมคอยเเจกจ่ายของขวัญให้กับเหล่าเด็กดีทั่วโลก

จินยองก็ชอบนะ—เคยชอบน่ะ เทศกาลที่นำต้นสนมาตกเเต่งด้วยเเสงไฟเเละลูกบอลหลากสี เขาเคยมีความคิดว่าสักวันจะพาคนรักไปฉลองเทศกาลนี้ด้วยกันที่ประเทศอังกฤษสักรัฐหนึ่ง ถึงเเม้เขาจะนับถือศาสนาพุทธก็เถอะ เเต่ซานต้าครอสกับมนต์ขลังในวันคริสต์มาสก็เป็นอะไรที่น่าดึงดูดไม่ใช่หรอ

“ซื้อคุกกี้หน่อยดีกว่า” จินยองคิดพลางเดินเลี้ยวเข้าไปทางโซนอาหารในซุปเปอร์มาร์เกต เเละบัดซบ—ให้ตายเหอะ

ผู้ชายคนนั้น

มาทำเหี้-ยอะไรที่นี่วะ!!!





‘ Once bitten and twice shy
I keep my distance, but you still catch my eye
Tell me, baby, do you recognize me?
Well, it’s been a year, it doesn’t surprise me ’

‘ ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว
ผมพยายามจะรักษาระยะห่าง แต่คุณก็ยังอยู่ในสายตาของผมอยู่ดี
บอกผมหน่อยสิ คุณจำผมได้ไหม?
อืม นี้มันก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจหรอก ‘

####

อย่านะ

อย่าเห็นนะ

อย่าหันมานะ!

“อ้าว”

ส้นตีนเถอะ

“ว่าไง” ร่างบางเอ่ยทักทายอีกคนกลับ ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงสเเลคสีดำยังคงดูดีเหมือนเคย ไหนจะทรงผมที่ทำทรงเปิดหน้าผากยิ่งขับให้อีกคนดูโดดเด่นกว่าใครในที่นี้

“มาซื้อคุกกี้?”

“อืม” จินยองตอบเสียงเรียบ หันหน้ากลับมาทางคุกกี้หลากยี่ห้อตรงหน้า พยายามอย่างมากที่จะไม่จ้องมองอีกคนนานจนเกินไปนัก

“ยังเหมือนเดิมเลยนะ” นิ้วเรียวที่กำลังไล่ไปตามป้ายราคาชะงัก เเววตาไหววูบชั่วขณะหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นราบเรียบดังเดิม

“เเล้วมาทำไรอะ” เขาเอ่ยถามอีกคนกลับ เหลือบตาเห็นกล่องเยลลี่หมีกล่องใหญ่เเล้วก็พอเดาได้

“ซื้อของเข้าห้องน่ะ”

“เด็กใหม่?” เขาเอ่ยถามพลางมองกล่องใส่เยลลี่เป็นเชิงถาม

“อ่าห้ะ จินยองล่ะ กับคนใหม่เป็นไง”

“ก็ดี”

มาร์คไม่ชอบกินขนมหวานเเละบ้างานมากจนเเทบไม่มีเวลาดูเเลตัวเอง เพราะงั้นการที่อีกคนยังหน้าตาเเจ่มใสเเละมีกล่องเยลลี่หมีในรถเข็นก็เเปลความได้อย่างเดียว

เเปลว่ามาร์คมีเเฟนใหม่เเล้วยังไงล่ะ

“อาทิตย์หน้าคริสต์มาสเเล้ว ไปไหนไหม”

“ไม่อะ”

“หรอ ไม่ไปเที่ยวกับคนนั้นหรอ”

“.....”

นี่มันก็ปีนึงเเล้วนะจินยอง

มูฟออนได้เเล้ว

“ไม่ชวนเขาล่ะ ที่อังกฤษก็ดีนะ”

“ไม่ล่ะ ครั้งที่เเล้วไม่น่าจดจำเท่าไหร่” ดวงตากลมมองสบกับดวงตาคมของเเฟนเก่านิ่ง

ภาพความจำในวันนั้นไหลย้อนกลับมา ชัดเจนในความทรงจำ ทุกความรู้สึกที่เกิดในวันนั้น ทุกถ้อยคำที่เอ่ยบอกกัน ภาพทุกอย่าง น้ำเสียง บรรยากาศ กลิ่นของคุกกี้อบใหม่กับเทียนหอมที่ยังจำได้ดี

เเละกลิ่นของผู้ชายคนนี้—มาร์ค ต้วน ผู้ชายที่อยู่กับเขาในวันคริสต์มาสปีที่เเล้ว

ในประเทศอังกฤษ

“ไปล่ะ” เขาสุ่มหยิบคุกกี้มายี่ห้อหนึ่งเเล้วหมุนตัวเดินจากมา

ร้อยวันพันปีไม่เคยเจอกันนอกเวลางาน

ทำไมต้องมาเจอตอนนี้ด้วยวะ

จินยองบ่นในใจ ขาเรียวก้าวฉับ ๆ ไปที่เคาท์เตอร์เพื่อคิดเงินเเละออกไปจากสถานที่เเห่งนี้

หนีไปให้ไกลจากผู้ชายใจร้ายคนนั้น






‘ (Happy Christmas) I wrapped it up and sent it
With a note saying, “I love you”, I meant it
Now I know what a fool I’ve been
But if you kissed me now, I know you’d fool me again ’

‘(ขอให้มีความสุขในวันคริสต์มาส) ผมห่อมันและส่งไปให้คุณ
พร้อมกับเขียนข้อความ “ผมรักคุณ” ผมหมายความแบบนั้นจริง ๆ นะ
แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ตอนนั้นผมโง่แค่ไหน
แต่ถ้าคุณจูบผมตอนนี้ ผมก็รู้ว่า คุณอยากให้ผมเป็นคนโง่อีกครั้ง ‘

####

“ตีมคริสต์มาสปีนี้เเม่งให้เเต่งชุดที่เป็นเพศตรงข้ามกับเพศสภาพตัวเอง ใครคิดวะ โคตรลาว”

“คุณยองเเจนะได้ข่าวมา”

“เชี่ย พี่ยองเเจ” เเจ็คสัยยกมือขึ้นมากุมขมับพร้อมตบปากตัวเองไปสองครั้ง เเน่ล่ะ พี่ยองเเจคือฝ่ายHRผู้มีพระคุณ ใครกล้าด่าก็บ้าเเล้ว

“เออเเล้วมึงจะเเต่งเป็นใคร” เพื่อนรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที เเจ็คสันหันเก้าอี้มานั่งจ้องหน้าจินยองเต็ม ๆ ตา

“นางเอกLalalandมั้ง” เขาตอบกลับ สายตาไล่อ่านอีเมลที่ถูกส่งมาอย่างไม่รีบร้อน

“อื้อหือ ไม่รู้เลยนะ”

“อะไร” จินยองละสายตามามองเพื่อนที่ทำเสียงสูงล้อเลียนเขา

“ป๊าว เเค่ไม่คิดว่ามึงจะปักใจขนาดนี้”

“กูไม่ได้ปักใจ กูเเค่ชอบเรื่องนี้"

ใช่ เขาเเค่ชอบเรื่องนี้

ไม่ใช่เพราะมันเป็นหนังเรื่องเเรกที่เขาได้ดูกับมาร์คหรอก

ไม่ใช่เพราะเราไม่มีเวลาไปเที่ยวด้วยกันเลยเปิดหาหนังดูด้วยกันในห้อง เเล้วเรื่องนี้ก็ถูกเลือกในวันนั้น

ไม่ใช่เลยสักนิด

“ใช่หร้อ”

“กูไปกินข้าวละ” จินยองลุกขึ้นก้าวเร็วๆทิ้งเเจ็คสันไว้ข้างหลัง เพื่อนสนิทรีบลุกขึ้นทันที

“อ้าว เห้ยรอกูด้วย!”

.
.
.
.
.

"มึงโอเคปะวะ" เสียงเเหบๆของคนตัวเตี้ยที่นั่งตรงกันข้ามกับเขาถามด้วยความเป็นห่วง จินยองหลบตาเพื่อนรักก่อนตอบเสียงที่พยายามทำให้มั่นคง

"เฉยๆ"

ถึงจะตอบเพื่อนไปเเบบนั้นเเต่ก็ห้ามสายตาให้เหลือบไปมองคนสองคนที่นั่งกินข้าวกันอยู่โต๊ะเยื้องๆกันไม่ได้

คนอย่างมาร์คยอมลงมานั่งกินข้าวที่ฟู้ดคอร์ดของห้างกับพนักงานใหม่

ให้เด็กประถมมองยังรู้เลยว่ามีซัมติง

ทีตอนคบกับเขาล่ะไม่เห็นมีเเบบนี้

"ก็ดี อะ กูให้ลูกชิ้นปลอบใจ" เเจ็คสันคีบลูกชิ้นในชามของตัวเองมาใส่ในชามเขา จินยองเบนสายตากลับมามองเพื่อนก่อนจะตอบเพื่อนด้วยรอยยิ้ม

"ขอบใจ"

รอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา

.
.
.

"มากินข้าวกับเเจ็คสันหรอ"

"อืม" จินยองล่ะเกลียดความบังเอิญช่วงนี้มาก เขามาเข้าห้องน้ำเเล้วก็ไม่วายได้เจอกับมาร์คอีกเป็นครั้งที่สองของวัน

"มากับเเฟนใหม่หรอ" ร่างบางเอ่ยถามพลางเงยหน้าสบตาอีกคน มาร์คมองตาเขากลับ เราจ้องตากันอยู่เเบบนั้นจนเป็นเขาเองที่ทนไม่ไหว

ความรู้สึกมากมายไหลวนอยู่ในท้องจนอยากอ้วกออกมา จินยองเบนสายตาหลบ มาร์คไม่ตอบคำถามเขา

"คิดว่าไงล่ะ" ดวงตาหวานเคลื่อนกลับมามองคนถามอีกครั้งด้วยความไม่เข้าใจ

"คิดว่าเด็กใหม่น่ารักดีนะ" เขากลั้นใจตอบออกไป ก้มหน้าล้างมือหลบสายตาที่เคยหลงรักจากอีกคน

ไม่สิ

'ยังคง' หลงรักต่างหาก

"เเค่นั้นหรอ"

"...." จินยองขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจยิ่งกว่าเดิม เเละเริ่มก้าวถอยหลังหนีใครอีกคนที่ก้าวเท้าเข้าหาเขามากขึ้น

"ไม่คิดถึงมาร์คเลยหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยถามเบาราวกระซิบ จินยองเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

"พูดบ้าอะไร"

"เเต่มาร์คคิดถึงจินยองนะ" ร่างหนาทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก่อนเดินออกจากห้องน้ำไป

คนตัวเล็กยืนอึ้งอยู่กับที่ด้วยความรู้สึกสับสนจนหายใจไม่ทั่วท้อง

จินยองเกลียด

เกลียดมาร์คที่รู้จักเขาดี รู้ว่าควรปั่นหัวเขาอย่างไรให้ตัวเองสมใจ

เกลียดที่มาร์คยังคงทำราวกับความรู้สึกของเขาเป็นของเล่น

เเละเกลียดที่สุด....คือหัวใจตัวเองที่กำลังเต้นเเรงอยู่ในตอนนี้





' A crowded room, friends with tired eyes
I’m hiding from you and your soul of ice
My God, I thought you were someone to rely on
Me? I guess I was a shoulder to cry on

ห้องที่เต็มไปด้วยผู้คน เพื่อนเเละดวงตาที่อ่อนล้า
ผมกำลังซ่อนตัวจากคุณ และจิตวิญญาณที่แสนเย็นชาของคุณ
พระเจ้า ผมเคยคิดว่าผมเชื่อใจคุณได้
ผมเคยคิดว่า ผมเป็นพึ่งพิงของคุณ '

####

"เเจ็คสัน?" จินยองเอ่ยถามคนที่เดินเข้ามาหาเขาด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ สภาพผู้ชายใส่ชุดเดรสของผู้หญิงกับวิกผมยาวสีทองที่ขัดกับกล้ามเเน่นๆเเละหนวดของเจ้าตัวทำให้ผู้คนรอบข้างหันมามองเเละกลั้นขำกันเป็นทิวเเถว

"หยุด! ห้ามขำ! ถ้ามึงขำกูจะเอาเค้กป้ายหน้ามึง"

"ฮ่าๆๆๆๆ" จินยองหลุดขำพรืดเมื่อได้ยินคำขู่ของเพื่อน เเจ็คสันหน้าเปลี่ยนสีด้วยความอับอายก่อนจะตรงไปปิดปากเพื่อนไว้

"หยุดได้เเล้ว กูอาย!"

"อะไร...ฮะ....อะไรดลใจให้มึงใส่ชุดนี้วะ" จินยองก้มหน้ากุมท้องหัวเราะจนหายใจไม่ทัน เเจ็คสันได้ยินคำถามเพื่อนก็ถลึงตาใส่ก่อนตอบ

"พี่ยองเเจอะดิ พี่เเม่งเเกล้งกู" เเจ็คสันตอบอย่างหัวเสีย เเน่ล่ะ คนอย่างเเจ็คสันน่ะไม่เคยชนะพี่ยองเเจได้หรอก

จินยองคิดว่าตัวเองยังสามารถหัวเราะเยาะเพื่อนได้มากกว่านี้ถ้าไม่ติดว่าสายตาเหลือบไปเห็นใครบางคนเดินเข้ามากับผู้ชายหน้าหวานอีกคนเข้าเสียก่อน

"พี่เอ็ม! หวัดดีพี่" เพื่อนรักส่งเสียงทักทายคนที่เดินมาด้านหลังเขาอย่างเป็นกันเอง จินยองหันหน้ามองตามเสียงก็เจอเข้ากับผู้ชายตัวสูงใบหน้ายิ้มเเย้มเดินเข้ามาหาเขา

"อ้าวไงเเจ็คสัน ชุดเฟี้ยวนะ" เสียงนุ่มของพี่เอ็มเอ่ยเเซวจนเเจ็คสันทำหน้าเเหยง

"โห่พี่ อย่าตอกย้ำได้มั้ย นี่เลยพี่ เอามันไปที ผมไม่อยากได้ยินเสียงมันขำผมเเล้ว" ตัวตลกจำเป็นผลักร่างบางเข้าหาคนตัวสูงจนคนถูกผลักตั้งตัวไม่ทัน จินยองเซชนอกคนเป็นรุ่นพี่เเถมตำเเหน่งสูงกว่าเขาเข้าอย่างจัง

"ห้ะ เห้ย"

"ผมไปละ ฝากด้วยนะพี่" เเล้วคนก่อเรื่องก็วิ่งจู๊ดหนีไปอีกทาง จินยองมองค้อนตามหลังเพื่อน อยากจะด่าสักคำสองคำเเต่ติดที่มันวิ่งหนีไปเเล้ว ร่างบางหันมาขอโทษอีกคนเสียงเบา

"ขอโทษนะครับ"

"ไงเรา ไม่ได้คุยกันนานเลย" เสียงนุ่มของพี่เอ็มเอ่ยทักทายเขาพร้อมกับดวงตาเป็นประกายเเละรอยยิ้มอบอุ่นที่จินยองได้รับตั้งเเต่ครั้งเเรกที่เจอหน้ากัน

"สองวันเองนะพี่"

"วันเดียวก็นานมากเเล้วสำหรับพี่"

"เว่อร์เเล้วครับ" จินยองหัวเราะเเห้งใส่คนเป็นรุ่นพี่ในชุดสูทสีฟ้า เส้นผมที่ถูกย้อมจนขาวของพี่เอ็มไม่ได้ทำให้อีกคนดูเเก่ลงเลย กลับยิ่งขับให้คนตรงหน้าดูโดดเด่นราวกับเทพบุตรลงมาเที่ยวเล่นบนโลกมนุษย์เสียมากกว่า

"ชุดสวยนะ มาจากเรื่องlalalandปะ"

"ใช่ครับ" ผมก้มมองชุดเดรสสีเหลืองของตัวเอง ร่างบางใส่วิกผมสั้นสีน้ำตาลเพื่อความสมจริง ด้วยความที่เอวบางร่างเล็กอยู่เเล้ว ทำให้จินยองดูราวกับเป็นผู้หญิงจริงๆจนมีคนเข้าใจผิดเดินเข้ามาหยอดในงานอยู่บ้างประปราย

"พี่ชอบเรื่องนี้นะ ถึงตอนจบจะเศร้าเเต่ก็เข้าใจได้"

"ผมชอบความรักที่พระเอกมีให้นางเอกอะครับ ผมว่ามันน่าประทับใจดี" ผมยิ้มให้อีกคน พี่เอ็มทำท่าจะพูดอะไรสักอย่าง เเต่เสียงทุ้มที่เเสนคุ้นเคยก็เรียกความสนใจของทุกคนในงานไปเสียก่อน

"ต้องขอโทษทุกคนก่อนนะครับที่ขัดจังหวะความสุข...ผมกำลังจะพูดเปิดงานครับ ใช้เวลาไม่นานหรอก" รอยยิ้มที่จินยองหลงรักถูกเเต้มอยู่บนริมฝีปากของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเเฟนเก่า ตรึงสายตาเขาให้จดจ่ออยู่กับมัน

"ขอบคุณทุกคนที่ทำงานหนักมาตลอดปีนี้ ขอให้ปีหน้าเป็นปีที่มีความสุข" มาร์คพูดไปยิ้มไปราวกับคนที่กำลังมีความสุขมาก จนจินยองเริ่มสงสัยว่าคนบนเวทีคงไม่ได้จะพูดถึงเเค่เรื่องเปิดงานวันนี้หรอก

"เเละก่อนที่ผมจะกล่าวคำว่าเริ่มงาน ผมขอเรียนเชิญทุกคนในที่นี้มางานเเต่งงานของผมด้วยนะครับ" ภาพตรงหน้าคือมาร์ค--ผู้ชายที่เขายังรัก ชูมือของผู้ชายหน้าหวานคนข้างกายขึ้นมาทำให้เห็นเเหวนเพชรเกลี้ยงเกลาวงหนึ่งบนนิ้วนางข้างซ้าย จินยองตัวเเข็งทื่อ เขาไม่ได้ยินเสียงรอบข้างอีกต่อไป ภาพในหัวมีเเต่ใบหน้ามีความสุขสลับกับเเหวนที่นิ้วนางวงนั้น

"ผมขอตัวก่อนนะครับ" ร่างบางวิ่งไปทางออกทั้งน้ำตาที่คลอหน่วย ไม่สนใจเสียงเรียกจากใครอีกคนที่ด้านหลัง

นี่มันก็ปีหนึ่งเเล้ว ทำไมยังไม่ไปจากตรงนี้สักที ทั้งที่คนคนนั้นทำร้ายเขามากมายจนไม่เหลือชิ้นดีขนาดนี้ ทั้งที่รู้อยู่เเล้วว่าต้องมีวันนี้

ทำไมนะ

ทำไมเขาถึงยังรัก

.
.
.
.
.

จินยองเลิกกับมาร์คเพราะมาร์คคบซ้อน

คบซ้อนไม่ใช่เขาเป็นตัวจริงเเล้วมาร์คมีคนอื่น

เเต่จินยองต่างหากที่กลายเป็นคนอื่นในความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง

มาร์คคบกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ก่อนเเล้ว ก่อนที่จะมาคบกับจินยอง พอเลิกกับเขาไป มาร์คก็เลิกกับผู้หญิงคนนั้นด้วย

'อย่าไปทำเเบบนี้กับเเฟนใหม่นะ'

ประโยคสุดท้ายที่เขาพูดใส่หน้ามาร์คก่อนจะเเยกจากกันไป

ที่จากน่ะก็เเค่ตัว มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าใจเรายังรัก

"จินยอง"

"คะ...คุณเอ็ม" จินยองรีบก้มหน้าหลบคนที่พึ่งเดินเข้ามาหาเขา คนตัวสูงนั่งลงข้างกายเขาก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าให้

"ผมไม่ชอบเห็นน้ำตาของคุณเลย"

"....." จินยองยังคงก้มหน้า เขารับผ้ามาเเต่ถ้าจะให้รับอย่างอื่นมามากกว่านี้ ร่างบางก็กลัวว่าจะรับไม่ไหว

ก็คุณเอ็ม ต้วนน่ะ

เป็นพี่ชายของมาร์คนี่

หน้าก็คล้ายกัน บ้านก็อยู่หลังเดียวกัน ถ้าจะมีที่ต่างก็คงจะเป็นนิสัยที่ต่างกันสุดขั้ว

"ให้ผมเป็นคนเช็ดน้ำตาให้คุณได้ไหม"

"ให้โอกาสผมได้ไหมครับ" จินยองเงยหน้ามองอีกคนด้วยความรู้สึกสับสน

ถ้าจะมีใครสักคนดูเเลหัวใจที่บอบช้ำดวงนี้

คุณเอ็มจะเป็นคนนั้นให้เขาได้จริงๆหรือ

.
.
.
.

ท่ามกลางเสียงพูดคุยของคนรอบข้าง ร่างบอบบางในชุดเดรสสีเหลืองก็เดินเข้าไปหาใครอีกคนในชุดเสื้อเชิ้ตสีส้มที่กำลังหยอกล้ออยู่กับคนรัก เขาก้มลงกระซิบเสียงเบาให้คนทั้งสองได้ยิน

"ขอให้มีความสุขมากๆในชีวิตคู่นะครับ"

พอกันทีกับอดีตที่ไม่อาจหวนกลับ

เขาควรเริ่มต้นใหม่อย่างจริงจังเสียที





' A face on a lover with a fire in his heart
A man under cover but you tore me apart, ooh-hoo
Now I’ve found a real love, you’ll never fool me again

การไปเจอหน้ากับคนรักพร้อมกับหัวใจที่ตื่นเต้นของเขา
ผู้ชายที่คอยปกป้องคุณ แต่คุณกลับทำให้ผมเสียใจ
ตอนนี้ผมได้พบกับรักแท้แล้ว และคุณไม่สามารถหลอกผมได้อีกแล้ว '





Talk

ตอนเเรกคิดว่าจะลงวันคริสต์มาสค่ะ เเต่ว่าปีที่เเล้วไม่ทัน พอจะลงปีนี้ก็อีกนาน เลยลงวันนี้เเหละค่ะ555555

#shademj เเหล่งรวบรวมความเอาเเต่ใจของเราเองค่ะ อยากเเต่งอะไรก็เเต่ง อยากลงอะไรก็ลง ใครที่หลงเข้ามาอ่านเรื่องนี้เเล้วก็ลองส่องเรื่องอื่นๆได้นะคะ เเละถ้านักอ่านท่านใดชื่นชอบก็บอกให้เรารู้ด้วยน้า เราจะได้มีกำลังใจเเต่งต่อ ขอบคุณมากค่า

I love you 3000 :)




วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Papa #MarkJin




-P A P A-




กริ้ง

ทั้งหมด625บาทครับ

ไม่ต้องทอนฝ่ามือบางยื่นธนบัตรสีเเดงให้อีกฝ่ายเจ็ดใบพร้อมรับกล่องสีเเดงสดมาถือไว้ก่อนจะเปิดประตูเดินเข้าห้อง

ขอบคุณที่ใช้บริการครับเขาได้ยินเสียงพนักงานส่งอาหารดังตามมาเเต่เขาไม่ได้สนใจ ร่างบางนำกล่องสีเเดงสดที่ภายในมีพิซซาหน้าฮาวายเอี้ยนรอเขาอยู่วางบนโต๊ะก่อนจะหยิบกินด้วยความหิวโหย

อร่อยจัง~~



กริ้ง

อ้ะ...” ร่างบางเดินไปเปิดประตูอีกครั้งเมื่อเสียงกริ่งดังขึ้น เเต่เเล้วร่างทั้งร่างกลับลอยหวือเข้าสู่อ้อมกอดของคนที่พึ่งมาใหม่เเทน

กลิ่นหอมที่เเสนคุ้นเคย

กลิ่นที่เขาคิดถึง

ป๋า! ป๋ากลับมาหาหนูเเล้ว!!” ร่างบางกอดตอบอีกคนทันทีที่ประมวลผลได้ว่าคนคนนี้คือใคร

คิดถึงหนูมากเลยค่ะ

ไม่เชื่อหรอก ไปฮ่องกงเจ็ดวัน ไม่เห็นมีข้อความสักข้อความคนตัวเล็กกว่าผละออกห่างจากอีกคนเมื่อนึกได้ถึงสิ่งที่คนตรงหน้าทำกับเขาไว้

หนูก็รู้ว่าป๋าไปกับภรรยาคนเเก่กว่าเอ่ยอย่างอ่อนใจ เห็นใบหน้ายู่ของอีกคนเเล้วเขาล่ะอยากจะจับมาฟัดให้จมเขี้ยว

ฮึ หนูก็เเค่เมียเก็บสินะ

โถ่ ไม่เอาสิคะ นี่ ป๋ามีของฝากมาให้หนูด้วยน้าคนเป็นป๋าพูดพลางโอบไหล่หอมหัวคนเด็กกว่าเเล้วชูถุงสีดำในมือขึ้นมาตรงหน้า ดวงตากลมโตใต้เเพขนตางอนยาวนั้นเบิกกว้างขึ้นด้วยความดีใจจนลืมความน้อยอกน้อยใจเมื่อครู่ไปหมด

นี่มันรองเท้านี่หนูอยากได้นี่!”

ใช่ค่ะ ป๋าให้นะ หายโกรธป๋านะคะร่างบอบบางคว้าถุงไว้ในมือก่อนจะเปิดดูของข้างในด้วยดวงตาที่ลุกวาว

ก็ได้ฮะ เเล้วป๋ากินข้าวมาหรือยังรอยยิ้มสดใสถูกส่งมาพร้อมประโยคคำถามทั่วไป เเต่กลับทำให้มาร์คหัวใจเต้นผิดจังหวะเอาได้ง่ายๆ

มาร์คน่ะมีอีหนูอยู่ในคลังเยอะเเยะ ทั้งที่ภรรยาของเขาเคยรู้ รู้อยู่ เเละไม่รู้ เเน่นอนว่าปาร์ค จินยองอยู่ในสถานะหลังสุด เด็กคนนี้น่ะ เป็นเหมือนเเรงใจในการมีชีวิตอยู่ต่อของเขา รอยยิ้มของจินยองสว่างสดใส เสียงหวานเจื้อยเเจ้วยามอีกคนพูดจาฉะฉานด้วยความมั่นใจเป็นสิ่งกระตุ้นอารมณ์ชั้นเยี่ยมยามที่ได้ร่วมรัก

ตัวเขาน่ะหลงเด็กคนนี้มากที่สุดเเล้ว ขนาดภรรยาที่เเต่งงานอยู่กินด้วยกันจนมีลูกเรียนชั้นประถมเขายังยอมได้ไม่เท่ากับที่ตัวเองยอมให้จินยองเลย

ก็ใครใช้ให้เด็กคนนี้น่ารักน่าฟัดขนาดนี้ ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะล่ามอีกคนไว้กับเตียงให้มีเพียงเเค่เขาคนเดียวที่ได้มองเห็นใบหน้าสวยหวานนี้ด้วยซ้ำไป

อ่า

น่าลองเเฮะ

ยังเลย หนูกินอะไรอยู่เขาเอ่ยตอบร่างเล็กพร้อมกับเดินไปยังโซฟาสีครีมกลางห้องที่เขาเป็นคนซื้อให้

ไม่สิ ไม่ใช่เเค่โซฟา

เเต่เป็นทั้งห้องนี้ที่เขาเป็นคนซื้อให้จินยองเองทั้งหมดเลยต่างหาก

พิซซ่าฮะ คุณป๋ามากินด้วยกันนะจินยองเอ่ยอ้อนเขาพลางดึงตัวให้นั่งลงข้างกัน มาร์คหยิบพิซซ่าออกมาจากถาดหนึ่งชิ้นขึ้นมากัดด้วยความหิวเช่นกัน

พอลงจากเครื่องเขาก็รีบตรงมาหาร่างบางทันที

คิดถึงเสียงหวานๆของจินยองจะเเย่เเล้ว

คุณป๋าเหนื่อยไหมฮะ ให้หนูนวดให้ไหม

อืม เอาสิร่างบางเดินอ้อมมาทางด้านหลังเขาพลางบีบนวดไหล่ให้อย่างเอาอกเอาใจ มาร์คนั่งกินพิซซ่าด้วยความสบายใจอย่างที่เป็นประจำยามได้อยู่ใกล้ร่างเล็ก

ป๋า...หนูขอกินคำนึงสิ

มาร์คยื่นพิซซ่าไปทางริมฝีปากอวบอิ่มที่อ้ารับชิ้นพิซซ่าจากมือเขา ฟันของอีกคนขบกัดนิ้วเขาอย่างหยอกล้อ

อยากกินไอติมไหมประกายตาสื่อความหมายถูกส่งไปยังร่างเล็กที่เเลบลิ้นเลียริมฝีปากสีเชอร์รี่ของตัวเองก่อนเอ่ยตอบ

อยากฮะ ไม่ได้กินมาหลายวันเเล้ว

มาร์คลุกขึ้นคว้าอีกคนเข้ามาบดจูบอย่างโหยหา เจ็ดวันเหมือนเจ็ดปี ทั้งที่ตอนเเรกเขาคิดไว้ว่าจะพาจินยองไปฮ่องกงด้วยกันเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน เเต่ภรรยาของเขาดันอยากไปเที่ยวฮ่องกงพอดี มาร์คจึงต้องเลือกหล่อนตามหน้าที่สามี

อื้อมาร์คไม่ปล่อยให้จินยองได้พูดอะไรจนกว่าเขาจะจูบจนพอใจ ลิ้นร้อนไล่กวาดไปทั่วโพลงปากชื้นเเฉะ จินยองจูบตอบเขาจนเกิดเสียงดูดดุนดังไปทั่วห้อง

ปะ..ป๋าฮะ ไปที่เตียงกันเถอะดวงตาฉ่ำน้ำสบมองเขาอย่างยั่วยวน เขาเดินไปยังเตียงนอนสีขาว มาร์คนั่งลงบนเตียงจ้องมองร่างเล็กที่นั่งลงบนพื้นอย่างรู้หน้าที่

กินสิ

รออยู่เลยฮะฝ่ามือบางค่อยๆรูดซิปกางเกงของเขาลงก่อนจะคว้าเเท่งเนื้อของเขาขึ้นมารูดรั้งด้วยดวงตาเป็นประกาย

สายตายั่วยวนมาพร้อมกับลิ้นเล็กที่เเลบเลียส่วนหัวเเท่งเนื้อของเขา มาร์คมองภาพตรงหน้าตาไม่กระพริบ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจินยองในตอนนี้เป็นราวกับเเมวตัวน้อยที่กำลังเลียเเท่งไอติมอยู่จริงๆ

เเถมยังเป็นไอติมร้อนเสียด้วย

อ่ามาร์คคำรามอย่างสุขสมเมื่อริมฝีปากอิ่มครอบครองเเก่นกายเขา มาร์คยึดจับเส้นผมของอีกคนไว้ก่อนจะกระเเทกกระทั้นร่างกายเข้าออกตามห้วงอารมณ์ที่พุ่งสูง

ก่อนที่เขาจะเเตะขอบสวรรค์พร้อมน้ำสีขาวขุ่นที่ถูกปลดปล่อยในโพลงปากชื้นเเฉะ

อร่อยจังร่างบางกลืนน้ำสีขาวลงลำคอ ลิ้นเล็กเเลบเลียขอบปากเเละเลียทำความสะอาดเเท่งเนื้อของเขาอย่างน่ารัก

เเต่ว่านะ

แปะ!

ใครบอกให้หนูกลืนคะมาร์คใช้เเท่งเนื้อร้อนตบเข้าที่เเก้มนิ่มของร่างบาง จินยองมองเขาด้วยดวงตาสั่นไหว

หนูกินไม่ได้หรอฮะ

ไม่ได้มาร์คดึงเส้นผมของจินยองให้เงยหน้ามองเขา ดวงตาคมสบกับเเววตาสั่นไหวของร่างเล็กก่อนจะใช้เเท่งเนื้อลูบไปตามโครงหน้าหวานอย่างหลงใหลเด็กดื้อต้องโดนลงโทษนะคะ

ลงโทษหนูเลยฮะ

จินยองปีนขึ้นมาบนตักเขาก่อนจะเเนบริมฝีปากลงมา ลิ้นเล็กโต้ตอบลิ้นของเขาที่กวัดเกี่ยวดูดดุนอยู่ในโพลงปาก น้ำสีใสไหลตามมุมปากอิ่ม ร่างสูงพลิกกายคร่อมคนหน้าหวานไว้ เขาพละออกมาหยิบของเล่นใต้เตียงด้วยความเคยชิน

กุญเเจมือสีเงินที่มีขอบเป็นขนฟูสีเเดงถูกคล้องไว้กับข้อมือบาง สัมผัสเย็นเฉียบที่ข้อมือไม่ได้ทำให้จินยองสลดลงเลยสักนิด เสียงเจื้อยเเจ้วยังคงพูดจ้อไม่หยุด

ล่ามหนูไว้เเบบนี้จะปล่อยหนูตอนไหนหรอฮะ

อยากให้ปล่อยก็ต้องทำตัวดีๆนะคะมาร์คว่าพลางปลดกางเกงของคนตัวบางออก ถกเสื้อสีซีดให้เลิกขึ้นจนเห็นตุ่มไตที่ชูชันด้วยเเรงอารมณ์

เเล้วถ้าหนูอยากให้มาร์คทำเเรงๆต้องทำตัวยังไงมาร์คชะงักจากการปลดเข็มขัดกางเกงของตัวเอง จ้องมองคนที่ถูกคล้องข้อมือทั้งสองข้างติดกันไว้เเต่ก็ยังคงไม่หยุดยั่วเขา

ร่านมากระวังจะเดินไม่ไหว” 

ก็คิดถึงมาร์คนี่นา....คิดถึงจนตัวสั่นจินยองใช้เท้าลูบไล้ต้นขาเเกร่ง เรียวขาขาวที่มีเพียงชั้นในตัวบางขยับขึ้นลงสัมผัสส่วนกลางลำตัวของคุณป๋าที่อายุย่างเข้าสี่สิบเเต่หุ่นกลับฟิตราวกับเด็กอายุยี่สิบปลายๆ

หึมาร์คหัวเราะในลำคออย่างถูกใจ เขาถอดเสื้อออกเผยให้เห็นกล้ามหนาเเน่นที่ดูเเลมาอย่างดี ตามด้วยกางเกงเเละชั้นในสีขาว ปล่อยให้เเท่งเนื้อของเขาชูชันสู่สายตาของอีกคนบนเตียง

อ้ะ ..อื้อจินยองครางเสียงหลงเมื่อริมฝีปากของอีกคนครอบครองยอดอกเขา คุณป๋าเลียรอบฐานพร้อมขบกัดอย่างหมั่นเขี้ยว มืออีกข้างก็ล้วงช่องทางด้านหลังของเขาเพื่อเปิดทางให้อะไรที่ใหญ่กว่า

เจลหล่อลื่นถูกหยิบยกขึ้นมาใช้เมื่อนิ้วที่สามถูกส่งเข้ามาภายในกาย

อะ..อึ่กจินยองน้ำตาซึมเมื่อเเท่งร้อนของมาร์คสอดใส่เข้ามาในร่างกายเขา เพียงเเค่ส่วนหัวก็ทำเอาร่างเเทบเเหลกสลาย

ดวงตากลมโตช้อนมองอีกคน เขาใช้เเขนคล้องคอมาร์คไว้ก่อนจะคลายเเรงหดเกร็งที่ช่องทางด้านหลัง มาร์คจูบซับเปลือกตาเขาอย่างปลอบโยน ก่อนที่อีกฝ่ายจะเข้ามาได้จนสุด จินยองรู้สึกปวดร้าวไปทั้งร่างราวกับกำลังโดนฉีกให้เป็นชิ้นๆเมื่อมาร์คกระเเทกเข้ามาอย่างไม่ออมเเรง

ไม่ถนอมกันเลยซักนิด

เเต่นี่เเหละ เซ็กส์ในเเบบที่จินยองชอบ

ฮะ...ป๋าฮะ ขยับสิจินยองอ้อนวอนด้วยดวงตาฉ่ำน้ำ มาร์คเริ่มต้นจังหวะด้วยความเนิบนาบ ไม่รู้ว่าอีกคนจงใจเเกล้งกันหรือเปล่า เเต่จินยองไม่ชอบเเบบนี้เอาเสียเลย

เเรงอีกฮะ อื้อ ..มาร์ค เเรงอีก อ้ะร่างทั้งร่างเเอ่นโค้งรับสัมผัสจากอีกคนอย่างยินดี ลำเเขนเล็กยกขึ้นคล้องคออีกฝ่าย มาร์คเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นตามคำขอ จินยองจิกเล็บลงไปบนเเผ่นหลังหนาเพื่อระบายอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ในช่องท้อง เขาเปล่งเสียงครางอย่างสุขสม ริมฝีปากหยักบดจูบลงมาอย่างรุนเเรง ขบกัดปากเขาจนเเสบไปหมด

อ่า

เร้าอารมณ์เก่งจริง

ครางดังๆสิคะ คิดถึงป๋ามากไหมหืม

..ฮะ คิดถึง อ้ะ มาก อื้ออเขาครางไม่เป็นภาษาเมื่อคนตัวหนากระเเทกกายเข้ามาโดนจุดกระสันจนร่างทั้งร่างสั่นเทา ครางรับคำขอของมาร์คดังลั่นอย่างเอาใจ

เสียว...เสียวฮะ

ชอบไหมคะ

อื้อเหมือนสติกำลังหลุดลอยไปกับอากาศ เสียงร่างกายที่กระทบกันดังจนน่าอาย จินยองกำลังถูกอีกคนกระเเทกจุดเสียวติดต่อกันเป็นจังหวะรัวเร็ว ร่างทั้งร่างสั่นคลอนเกินจะควบคุม

ตอบสิคะ ดื้ออีกเเล้วนะเมื่อไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการมาร์คจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงขัดใจ ลำเเขนเเกร่งช้อนอุ้มเขาขึ้นยืน มาร์คดันเขาชิดกำเเพงก่อนจะสอดใส่ด้วยจังหวะที่เร็วขึ้นจนสติพร่าเลือน

...ชอบฮะ เร็ว...อ้ะ อ้ะเสียงหวานเอ่ยตอบพร้อมห้วงอารมณ์ที่ถูกจู่โจมอย่างรุนเเรง ประโยคต่อท้ายที่ว่าเร็วไปเเล้วจึงถูกส่งออกมาไม่หมด

อยากให้เร็วอีกหรอคะ

..อย่าเเกล้งหนู อ้ะ อื้อ ฮื่อ

พูดไปก็เท่านั้น ทำอย่างกับว่ามาร์คจะฟังเขา ร่างทั้งร่างสั่นคลอน กายเเกร่งกระเเทกเข้าหาเขาถี่ยิบ เสียงกระทบกันของร่างกายทำเอาจินยองใบหน้าเห่อร้อน

จะ..จะเเตกเเล้วฮะ

อ้ะ อ้าเขาครางรับเมื่อถึงจุดสูงสุดของห้วงอารมณ์ มาร์คกระเเทกกายอีกสองสามครั้งก่อนจะถอนตัวออก จินยองรีบเกี่ยวเอวสอบไว้ทันที

ยังไม่หายคิดถึงเลยฮะเขาเอ่ยอ้อนอีกคนตาใส เกาะเกี่ยวร่างตรงหน้าไว้เเน่น

อีกรอบพอเเล้วนะคะมาร์คดันส่วนกลางลำตัวของเขากลับที่เดิม จินยองผวาจิกเล็บบนเเผ่นหลังเขาพร้อมสูดปากอย่างเสียวซ่าน

ซี้ดด อีกสองรอบไม่ได้หรอ

คิดถึงจริงๆนะเมื่อถูกสายตาคมดุกลับมาจินยองจึงตีหน้าเศร้าเเล้วหอมเเก้มสากไปหนึ่งที มาร์คกัดไหล่เขาด้วยความหมั่นเขี้ยว

เจ็บใช้ได้เลย

ถ้าหนูยังไม่หยุดยั่ว ถึงพรุ่งนี้จะป่วย ป๋าก็ไม่ให้พักหรอกนะคะเสียงทุ้มพูดพลางตีตราความเป็นเจ้าของร่างบางในอ้อมเเขน รอยสีกุหลาบถูกเเต่งเเต้มผิวขาวเนียนยิ่งขับให้ปาร์คจินยองชวนมองยิ่งกว่าเดิม

เเล้วใครให้ป๋าอดละฮะ หนูจะรัดป๋าเเรงๆเลยคอยดู

ปากดีเเบบนี้ไงเขาเลยไปไหนไม่รอดสักที

อย่างนี้ต้องลงโทษให้หนักกว่าเก่าเสียเเล้ว

อ่า


เข็มขัดของเขาไปไหนนะ?




Talk

เเวะมาวูบวาบเบาๆเเล้วก็จะไปนอนเเล้วค่ะ กำลังฝึกเขียนdirty talkไว้ใช้กับเรื่องหลักอยู่ ดีไม่ดียังไงคอมเม้นต์ให้เราอ่านหน่อยนะคะ อยากรู้ว่าเขียนออกมาได้ดีหรือยังงง ทวิตติด #shademj ก็ได้เน้อ เราจะรออ่านน้าาาา sweet dreamนะคะทุกคน/จุ๊บ

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Rose #Markjin





-R O S E-



ผมร้องไห้บ่อน้ำตาเเตก เสียงสูดน้ำมูกดังขึ้นเป็นระยะพร้อมกระดาษทิชชู่คราวละสองสามเเผ่น
คุณเหมือนเด็กมาก
ฮึก ผม..ผมอิน

เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ

ผมไม่เห็นจะเข้าใจผมร้องท้วงเมื่อเดินออกจากโรงหนัง คนข้างกายหันหน้ามอง
คุณไม่พอใจกับการตัดสินใจของวิลหรอ
ใช่...เขาเห็นเเก่ตัวมาก
ทำไมล่ะ
ถ้าเขารักลูสักนิด เขาจะไม่ทำเเบบนั้น
เรื่องที่เขาเจอมันหนักหนามากนะ
เเต่ตอนนั้นเขาไม่มีใคร ตอนนี้เขามีลู เขามีความสุข
เเต่เขาเคยมีความสุขมากกว่านี้
เเค่นี้ยังไม่พออีกหรอ
ไม่หรอก
คุณรู้ได้ไง
ไม่มีใครเข้าใจคนที่คิดจะฆ่าตัวตายได้ดีเท่าพวกเดียวกันหรอกนะ

ผมอึ้ง

คุณ...หมายความว่า
เอาล่ะ เราคงต้องเเยกกันตรงนี้

เขาพูด หันมามองหน้าผม
เดี๋ยวสิ” 

ผมรั้งเขาไว้ คำพูดของเขา มันเหมือนเรือที่ลอยอยู่กลางทะเลรอให้ใครสักคนหาเจอ

ผมชื่อปาร์คจินยอง

เขาเลิกคิ้ว

ผมมาร์คต้วน

เราจับมือกัน

จะเป็นไรไหมถ้าผมขอไลน์คุณ เผื่อชวนมาเที่ยวอีก ผมถูกชะตาน่ะ

เขานิ่งไป

ได้สิ

ผมไม่ได้รู้จักมาร์คมาก่อน เราเเค่บังเอิญจองที่นั่งในโรงหนังติดกัน เเละผมร้องไห้เสียงดังจนเขาต้องยื่นทิชชู่ให้

รับไปเถอะ คุณจำเป็นต้องใช้มากกว่าผมนะ

ผมกลับมาที่บ้าน ตัดสินใจอยู่ชั่วครู่ว่าจะทักเพื่อนใหม่ไปดีไหม

JY : hi
M : hi
JY : พรุ่งนี้คุณว่างไหม 
M : ทำไมหรอครับ
JY : ผมจะไปหอศิลป์น่ะ ไปด้วยกันไหม

เวลาผ่านไปสักพักจนจินยองเริ่มพิมพ์คำว่าถ้าคุณไม่ว่าง..’ ข้อความของอีกคนก็ตอบกลับมา

M : ได้ครับ



//



เรานัดเจอกัน มาร์คเอากล้องมาด้วย

เเชะ!

คุณเเอบถ่ายผมหรอ

ผมประหม่า ไม่รู้ว่าต้องเอามือไปวางไว้ตรงไหน

ครับ

เขายอมรับหน้าตาย ใจผมเต้นผิดจังหวะ

ขอดูได้ไหม

ได้สิ เเต่ต้องดูที่ห้องผมนะ

ผมนิ่ง มองหน้าเขาอย่างอึ้งๆ

ผมล้อเล่นครับ

มาร์คเป็นผู้ชายที่หล่อมาก ถ้าให้พูดกันตามตรงน่ะนะ ผมเเอบมองเขาตอนถ่ายภาพตามมุมต่างๆ ผมชอบสีหน้าของเขาเวลาได้ถ่ายภาพ มันดูเป็นงานที่เขารักจริงๆ

เเชะ!

ทีหลังเรียกผมก็ได้นะครับ
ตอนคุณเผลอ...น่ารักดี

 ผมส่มยิ้มให้เขา

เเต่ผมว่าผมน่ารักกว่านะ ตอนยิ้มให้คุณ

เขาหน้าเเดง

คุณชอบถ่ายรูปหรอครับ
อาชีพผมน่ะ คุณชอบงานศิลปะหรอ
ผมไม่ได้ชอบงานศิลปะเท่าไหร่หรอกครับ ผมเเค่ชอบเดินเล่น
คุณสนใจมาเป็นเเบบให้ผมไหม
คุณถ่ายรูปเเนวไหนหรอครับ
นู้ด

เขายกยิ้ม ผมอึ้งอีกครั้ง



//



ผมมาที่บ้านของเขา มันกว้างเเละรกมาก มีห้องหนึ่งที่มีกล้องเเละอุปกรณ์ถ่ายรูป โซฟาสีเลือดหมู เเละฉากหลังสีเขียว

ถอดเลยครับ

ใบหน้าผมร้อนผ่าว สมองอื้ออึง รู้สึกกระดากมากที่สุดในชีวิตเมื่อต้องมาเเก้ผ้าต่อหน้าคนที่ไม่รู้จัก

คุณขาวมาก

ผมนั่งตัวเกร็ง นั่นคือคำชมใช่ไหม

มาร์คดูหงุดหงิด ไม่สิ เขาดูไม่พอใจกับภาพที่ได้สักเท่าไหร่

ขออนุญาต

ริมฝีปากของเขาเเนบกับปากผมเเละผมอนุญาต เขารุกล้ำเข้ามา ลิ้นของเขากวาดไปทั่วโพลงปากผม ฟันของเขาขบกัดปากผมจนรู้สึกเจ็บ เราจูบกันเนิ่นนานจนผมหอบหายใจ เริ่มคุมตัวเองไม่อยู่

เเล้วทุกอย่างก็หยุด

มองกล้องครับ

เเชะ!

มาร์คดูพอใจมากเมื่อถ่ายเสร็จ

คุณสวยมาก
ผมอยากสวยกว่านี้...ช่วยผมนะ

เขาอุ้มผมขึ้น หลังชนกำเเพง ริมฝีปากของผมถูกล่วงล้ำไม่มีช่องว่างให้โต้เเย้ง ราวกับกำลังโดนเเผดเผา เขาสอดใส่ เร่งจังหวะจนผมเบลอ ใบหน้าร้อนจัดเมื่อเสียงร่างกายของเราดังกว่าเสียงร้องของผมเอง

มาร์ค อ้ะผมครางหวิวเมื่อมาร์คกัดบริเวณไหปราร้าผม

ผมจะทำให้คุณสวยขึ้น

ผมหอบหายใจ ครางรับทุกสัมผัสของเขา จังหวะร่างกายถูกเร่งเร้า เขาครางต่ำ ปลดปล่อยจนเหนอะหนะ

เเชะ!

เขาอุ้มผมมานอนที่เตียง ผมไม่มีเเม้เเต่เเรงจะขยับ ร่างกายถูกอีกคนปรับท่าตามใจชอบ

คุณสวยจริงๆ

เขามองผมด้วยสายตาเป็นประกาย ราวกับเจอสมบัติล้ำค่าที่เฝ้าตามหามานาน

ผมกลับบ้านทิ้งตัวลงบนเตียง เฝ้านึกถึงสัมผัสของเขา

อ่า

ผมคิดถึงเขาจัง

อยากได้อีก

ทุกสัมผัสที่เขามอบให้

ผมอยากได้มันอีก

ยิ่งเห็นร่องรอยที่เขาทำทิ้งไว้

ผมยิ่งคิดถึงเขา


//



ผมมาหามาร์คที่บ้านของเขา มาร์คเปิดประตูต้อนรับผมอีกครั้ง

ผมอยากถ่ายรูปคุณอีก

เอาสิครับ

เขาให้ผมนั่งที่โซฟาตัวเดิม เเสงไฟในห้องมืดลง เขาเดินเข้ามาพร้อมกับเชือกเส้นหนึ่ง

ริบบิ้นน่ะ ผมขออนุญาตเขาผูกริบบิ้นที่ตัวผม ใจผมเต้นเเรงขึ้น เมื่อถูกฝ่ามือร้อนๆของเขาสัมผัสตามร่างกาย

อ้ะผมสะดุ้ง เขาดันผมให้นอนราบ ขบกัดสร้างรอยสีกุหลาบไว้ทั่วกาย

เเชะ!

คุณโอเคไหม ถ้าผมขอใช้เข็มขัด

ทำอะไร

ผมขออนุญาต

เสียงกระทบกันระหว่างเนื้อเเละหนังดังก้อง ผมหวีดร้องอย่างเจ็บปวด เขาตวัดวาดมันลงบนร่างกายผมอีกครั้ง น้ำตาผมเริ่มคลอหน่วย

เเชะ!

ให้ผมปลอบคุณผมกอดรัดเขาเอาไว้ มาร์คพาผมมาที่เตียงพร้อมกล้องตัวโปรด เขาประทับริมฝีปากที่หน้าผาก เเก้ม เเละคางของผม ความเจ็บเเสบตามร่างกายถูกเเทนที่ด้วยความวาบหวาม เขาปลอบโยนผมด้วยสิ่งร้อนผ่าว ผมขยับกายเข้าหาด้วยความกระสันอยาก

เขามัดมือผมไว้ที่หัวเตียง จัดท่าทางของผมราวกับตุ๊กตาตัวหนึ่ง น่องขาของผมเปรอะไปด้วยของเหลวอุ่นสีขาวขุ่นที่มันยังคั่งค้างอยู่ภายใน

เเชะ!

สวยกว่าเมื่อวานอีกนะครับ



//



คุณจะเอาภาพของผมไปทำอะไรหรอ
อืม เป็นเหมือนของสะสมละมั้ง
คุณไม่คิดจะขายมันหรอ
ไม่หรอกครับ

เราเงียบกันไปสักพัก ผมนั่งจิ้มไส้กรอกเข้าปาก พักสายตาด้วยการเลื่อนมันไปวางไว้ที่ใบหน้าของมาร์ค

อ่า
เขาหล่อจริงๆล่ะ

คุณรู้อะไรไหมจินยอง
“......”
ผมถูกใจคุณมาก คอลเลคชั่นของคุณจะเป็นชิ้นสุดท้าย
ทำไมล่ะ
เพราะผมจะฆ่าตัวตาย

ผมอึ้งไปอีกครั้ง

คุณคงพูดเล่น
ผมพูดจริง

ไม่มีเเววล้อเล่นในน้ำเสียงหรือดวงตาของเขา

ผมใจหาย

ส่ายศรีษะรัวๆ

ผมไม่ยอมนะ
เเล้วคุณจะทำยังไงล่ะครับมาร์คยกยิ้ม เท้าคางมองผม ทำเหมือนเรื่องเมื่อครู่เป็นเเค่คำพูดหยอกล้อ ทั้งที่เขากำลังพูดถึงการกระทำที่ศาสนาบัญญัติไว้ว่าเป็นการกระทำที่เกิดกรรมร้ายเเรงที่สุด

ผมจะไม่ให้คุณถ่ายรูปผมเเล้ว
ก็ได้ครับ ผมยังมีเวลาอยู่

ทำไมกัน

ทำไมผมต้องมารับรู้เรื่องอะไรเเบบนี้

ทั้งที่ผม

เริ่มจะรักเขาเเล้ว



//



วันนี้เราไปสวนสาธารณะด้วยกันไหม
ได้สิครับ

ผมเดินอยู่ตามเส้นทางที่รอบข้างเต็มไปด้วยความสดชื่นของธรรมชาติ มาร์คเดินตามผมพร้อมกล้องโปรที่เขาพกติดตัวเป็นประจำ

เเชะ!

คุณนี่ชอบถ่ายตอนผมเผลอจริงๆเลยนะ
ไม่พอใจหรอครับ
เปล่าหรอก เขินน่ะ

เราเดินคู่กันไปสักพัก ผมขอจับมือ ซึ่งมาร์คไม่ขัด เราเดินจับมือคู่กันไปสักพัก ผมก็ยกโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา

เเชะ!

คุณเเอบถ่ายผมหรอ
คุณหล่อมากเลยรู้ตัวไหม
รู้ครับ

จินยองเบะปากใส่อีกคน

มาถ่ายรูปคู่กันเถอะเขาก้มหน้าลงมา ยกยิ้มให้กล้อง ออร่าความหล่อของเขากลบออร่าของผมจนไม่เห็นฝุ่น

เเชะ!

รูปคู่รูปเเรก

ของเรา



//



ถ้าผมอยากมีเซ็กส์กับคุณ เเต่ไม่ให้คุณถ่ายรูปได้ไหม
ไม่ได้หรอกครับ

ผมหน้างอ

เพราะช่วงเวลานั้น คุณสวยงามที่สุดเเล้ว

ผมหน้าเเดง

ผ่านไปหลายสัปดาห์ สุดท้ายผมก็เเพ้ ยอมเเพ้ให้กับความต้องการของตัวเองเเละความร้ายกาจของอีกคน

อ้ะ อื้อเขาเติมเต็มให้ผมครั้งเเล้วครั้งเล่า ผมกำลังยกยิ้ม รู้สึกดีกับสัมผัสที่เขามอบให้จนถึงจุดสูงสุด

คุณออนท็อปได้ไหม
ได้สิ

ผมพลิกตัว กลืนกินเขาด้วยความลื่นจากสิ่งที่ยังคงค้างอยู่ภายใน เขาดูดดุนร่างกายผมจนสีกุหลาบที่เริ่มจางไปกลับมาอีกครั้ง

ผมหอบหายใจ ใบหน้าขึ้นสี มาร์คบีบเคล้นสะโพกผม ผมคุมจังหวะให้ถี่เร็วตามความต้องการที่เพิ่มสูง ผมกัดปากปรายตามองเขา

มองมาร์คที่ถือกล้องในมือไม่ขยับ เขากำลังจ้องผมผ่านเลนส์นั้น

เเละในตอนที่ผมกำลังจะปลดปล่อย

เเชะ!

คุณสวยมากครับ



//



คุณยังคิดจะฆ่าตัวตายอยู่ไหม
ผมไม่เคยไม่คิด
ทำไม
เพราะชีวิตของผมมันเลวร้าย
ไม่หรอก คุณยังมีผมนะ
ขอบคุณครับ
ไม่ทำไม่ได้หรอ
ไม่ได้หรอกครับ
ทำไมล่ะ
ผมสกปรกเกินกว่าที่จะมีชีวิตต่อ
ผมไม่สนหรอก
ถ้าทำได้...ผมก็อยากลืมมันไปเหมือนกัน
ผมรักคุณ
งั้นคุณช่วยใช้ชีวิตต่อจากนี้เผื่อผมด้วยนะ
ทำไมเราไม่ใช้มันไปด้วยกันล่ะ
เพราะผมรู้สึกสอ้นหวังกับการใช้ชีวิตเเล้วน่ะสิ



//



เราไปผับกันไหม
ได้สิครับ

รอยยิ้มอบอุ่นของมาร์คถูกส่งมาพร้อมกับคำตอบที่ไม่เคยขัดความต้องการของผมเลยสักครั้ง

นับตั้งเเต่วันที่เจอกันจนถึงวันนี้ เวลาก็ล่วงเลยมาหลายเดือนเเล้ว

ผมเผลอตัวเผลอใจให้เขาถ่ายรูปไปเยอะเลย

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำหนดชิ้นงานในคอลเลคชั่นของมาร์คมีอยู่เท่าไหร่

เเละตอนนี้มันเหลืออยู่เท่าไหร่

ใกล้ถึงเวลาเเล้วล่ะ
เวลาอะไรหรอครับ
เวลาที่ผมตั้งไว้ว่าจะไปน่ะ
“.......”

เเต่ถึงผมจะรู้จำนวนชิ้นงานที่เเน่ชัด ยังไงเวลาที่มาร์คตั้งไว้ก็ไม่มีวันเปลี่ยน

มาร์คไม่เคยเลิกคิดเรื่องที่จะฆ่าตัวตาย ต่อให้ผมทำดีมากเเค่ไหน มาร์คก็ยังคงยืนยันคำเดิม

คุณได้กำหนดเวลาตายไว้ไหมผมกระอักกระอ่วนทุกครั้งที่ต้องพูดคำว่าตายออกมา
คงเป็นช่วงเช้าของวันนั้น

ในขณะที่ผมรักเขามากขึ้นทุกวัน

เขาก็ยังคิดที่จะจากไป

เขาเคยบอกผมว่าจริงๆกำหนดระยะเวลาที่เขาตั้งไว้มันเร็วกว่านี้

เเต่เพราะเขาเจอผม

เขาจึงอยากทำรูปถ่ายคอลเลคชั่นสุดท้ายเอาไว้

เขาจึงยอมเลื่อนมันออกไป

เเละเขาไม่อยากเลื่อนมันเป็นครั้งที่สอง

เสียงเพลงดังกระหึ่ม ผมไม่ได้ยินสิ่งที่มาร์คพูดเลยสักนิด

คุณ—-ไหม
อะไรนะ
คุณไป—-ไหม
ผมไม่ได้ยิน

เขาจับมือผม ส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้ พาผมไปที่ฟลอเต้น เเล้วเขาเริ่มกระโดดผมกระโดดตามจังหวะ เริ่มเข้าใจที่เขาจะสื่อก่อนหน้านี้

เราส่งยิ้มให้กัน

มือของเรายังคงจับกันไว้

ผมมีความสุขมาก

เราไม่มีสถานะให้เเก่กันเเละกัน เเน่นอน เพราะมาร์คไม่เคยเอ่ยถึง

เเละผม....ไม่เคยรักษาความสัมพันธ์ของใครไว้ได้เลย

ผมกลัวที่จะต้องถูกผูกมัด

เเต่กับมาร์ค

มันไม่ใช่

ผมอยากมีเขาอยู่ด้วยกันในทุกๆวัน อยากเห็นหน้าเขาเป็นคนเเรกเวลาตื่นนอน อยากได้ยินเสียงของเขาบอกอรุณสวัสดิ์ อยากได้สัมผัสจากริมฝีปากของเขาที่หน้าผากทุกเช้า

ผมอยากได้รับความรักจากเขา

ความรักที่ผมมั่นใจว่าเขาไม่ได้มีมันให้กับผม

เขาเหม่อลอย

ยิ่งนานวันยิ่งบ่อยครั้ง

เขาเริ่มสูบบุหรี่

การถ่ายภาพไม่ใช่งานที่เขารักอีกต่อไป หลังจากที่เขากลับมาจากการไปทำธุระส่วนตัวในวันหนึ่ง

ผมรับรู้ได้

ผมมีเพลงจะให้คุณ

Oh won't you stay with me?
Cause you're all I need—stay with me,Sam Smith

ขอบคุณครับ
อยู่กับผมนะ

เขาไม่ตอบ ไม่รู้ว่าเพราะไม่อยากปฏิเสธผม

หรือเพราะบางทีความเงียบ ก็อาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด



//



คุณว่างไหมวันนี้
ผมว่างเสมอ
ไปงานเเต่งกับผมหน่อยสิ
ได้ครับ

ผมใส่สูทสีน้ำเงินเข้มที่ตัดพอดีตัวเข้าธีมงานเเต่งของเพื่อนผมในวันนี้ มาร์คใส่สูทสีดำกับเชิ้ตสีขาวธรรมดา เเต่เเปลกมากเมื่อมันกลับทำให้เขาดูดีมากๆ-มากกว่าในทุกๆวัน

เขาเหมือนคนประหลาด วันไหนที่ผมคิดว่าเขาหล่อมากๆจนไม่สามารถที่จะหล่อมากไปกว่านี้ได้  เเล้ว วันต่อมาเขากลับยังสามารถหล่อมากขึ้นไปได้อีกจนผมนึกสงสัย

สรุปเขาหล่อมากขึ้นทุกวัน

หรือเป็นผมกันเเน่ที่หลงเขามากขึ้นทุกวัน

คุณไม่อยากได้ดอกไม้หรอ
ดอกไม้มีไว้ให้เจ้าสาว
เเล้วคุณไม่ใช่หรอ

ผมหน้าเเดง เริ่มคิดว่าที่จริงลองรับดอกไม้นั้นดูสักครั้งก็ไม่เสียหาย ผมวางเเก้วไวน์ลง เดินไปยังจุดที่สาวเล็กสาวใหญ่ยืนรุมกันอยู่

อ่า

มันเบียดกว่าที่ผมคิดเเหะ

1
2
3

ฟุ่บ!

เสียงนับจังหวะโยนดอกไม้ของเจ้าสาวบนเวทีดังขึ้น ก่อนที่ช่อดอกไม้สีชมพูอ่อนจะตกลงมาที่มือผมพอดี

ผมระบายยิ้มกว้าง รีบเดินกลับไปหามาร์ค

ผมได้ดอกไม้ล่ะ
สวยมากครับ
ดอกไม้หรอ
คุณต่างหาก

หน้าผมร้อนผ่าว ผมยื่นดอกไม้ให้เขา
ผมให้คุณ
ขอบคุณครับ เเต่ผมว่ามันเหมาะกับคุณมากกว่า
“....”
ตอนมันอยู่บนตัวคุณน่ะ



//



เสียงผมเเตกพร่าด้วยเเรงอารมณ์ ดอกไม้ช่องามถูกขยำเละเทะไม่เป็นทรง กลีบดอกร่วงโรยอยู่รอบกาย กลิ่นหอมอ่อนๆทั้งจากคนที่ทาบทับร่างของผมอยู่เเละจากดอกไม้รอบข้างมัวเมาผมจนสติพร่าเลือน

มาทำคืนนี้ให้เป็นเหมือนคืนสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ด้วยกันเถอะครับ

คุณ...อ้ะ

ผมอยากได้ยินเสียงคุณ อย่าเก็บมันไว้เลยนะ

ผม

ตอบรับเสียงหวาน ร่างกายบิดเร่าไปตามสัมผัสที่อีกคนมอบให้ เขาร้อนเเรงสลับกับอ่อนโยนจนผมตามเกมส์ไม่ทัน กลีบดอกไม้กลีบเเล้วกลีบเล่าถูกโปรยลงบนร่างกายของผมพร้อมจังหวะที่เขากระเเทกตัวเข้ามา

เเชะ!

เสียงลั่นชัตเตอร์ดังคลอไปกับเสียงหัวเตียงกระทบผนัง ผมหวีดร้อง ปลดปล่อยทุกหยาดหยดเเห่งความสุขครั้งเเล้วครั้งเล่า

ผมรักคุณนะ

เเละก่อนที่สติผมจะวูบดับ เสียงทุ้มที่ดังคลอเคลียอยู่ข้างหูคือสิ่งสุดท้ายที่ผมได้ยิน

ผมยิ้มรับ

รู้สึกอิ่มเอมจนล้นหัวใจ



//



ผมเเละมาร์คกำลังยืนอยู่ท่ามกลางงานเลี้ยงงานเเต่งงานของเราสองคน

ผมยืนมองเขาอยู่ที่ข้างเวที มาร์คเดินเข้าไปหาพ่อกับเเม่ผม ทั้งสามคนพูดคุยกันด้วยรอยยิ้ม

ผมยิ้มตาม ก้าวขาเดินไปหาพวกเขาทั้งสามคนด้วยจังหวะเนิบนาบ

เเล้วภาพตรงหน้าก็ค่อยๆจางหายไป ผมร้อนรน เร่งจังหวะการก้าวเท้าจากเดินเป็นวิ่ง ผมวิ่งให้เร็วที่สุด เเต่ปลายทางข้างหน้ากลับวูบดับ เหลือเพียงความมืดมิดที่ไร้ทางออก

ผมสะดุ้งตื่น เหงื่อไหลท่วมตัว

ข้างกายไร้คนที่ฝันเห็น

ผมรีบใส่เสื้อผ้า ออกมาดูหน้าบ้านของมาร์ค

รถของเขาไม่อยู่

ผมกดโทรออก สมองเริ่มประมวลผลอย่างเร่งรีบ ผมจะไปตามหาเขาที่ไหน เขาหายไปไหนกัน

ความกลัวเริ่มกัดกินหัวใจ

สมองผมเริ่มรวน กระสับกระส่ายจนไม่อาจห้ามมือไม่ให้สั่นได้

ฮัลโหล” 

ผมโล่งใจ ถอนหายใจเสียงดัง

คุณอยู่ที่ไหน
ผมออกมาซื้อของน่ะ กำลังกลับ
เร็วๆนะ
ครับ

มาร์คซื้อข้าวต้มหมูให้ผม เรานั่งกินข้าวเช้ากัน

เหมือนปกติ

เเต่ที่ไม่ปกติ

คงเป็นสายตาของเขาที่มองผมอยู่ตลอด

คุณมีอะไรหรือเปล่า
เเค่อยากมองหน้าคุณน่ะ
หน้าผมมันทำไมหรอ
อยากจำให้ขึ้นใจน่ะ

ผมใจเสีย เริ่มลุกลน

เขาพูด

ราวกับกำลังจะไป

คุณจะตายวันไหน

ความอดทนของผมหมดลง ในที่สุดผมก็เป็นฝ่ายเอ่ยถามเขาเอง

คุณจะขัดขวางผมไหม
เเน่นอน
ผมจะตายอาทิตย์นี้
ผมไม่ยอมเเน่

มาร์คส่งผิ้มให้ผม สายตาของเขาเอ็นดูผมราวกับลูกเเมวตัวน้อยพึ่งลืมตาดูโลก

ผมทำนี่ไว้ให้คุณ
อะไรน่ะ
คอลเลคชั่นของคุณ

Rose —by Mark Tuan

ผมเปิดดูรูปข้างใน มีทั้งรูปผมตอนเผลอที่เขาเเอบถ่ายผมครั้งเเรก รูปตอนที่เขาขออนุญาตจูบผมครั้งเเรก เเละอีกหลายๆรูปที่เป็นความทรงจำที่ผ่านมา

ทำไมต้องrose”
คุณน่ะ เป็นเหมือนดอกกุหลาบ สวยงามเเต่เเหลมคม พร้อมที่จะทำร้ายคนที่อยู่รอบตัวคุณ
ผมไม่เคยทำร้ายคุณนะ
สีสันในชีวิตของคุณทำร้ายผมจินยอง
คุณหมายความว่าอะไร
คุณมีค่า...เกินกว่าที่จะเเปดเปื้อน
ผมไม่เข้าใจผมถอนหายใจช่างมันเถอะ ขอบคุณนะ
คุณชอบไหม
ชอบสิ

ผมส่งยิ้มให้เขา

คืนนี้ผมขอนอนกอดคุณได้ไหม
หืม
เเค่กอดอย่างเดียว
เเล้วเเต่คุณเลย
พรุ่งนี้เช้าคุณออกไปซื้อข้าวต้มหมูหน้าปากซอยให้ผมได้ไหม
คุณอยากกินหรอ
อื้อ
ได้สิมาร์ค

เรานอนกอดกัน อ้อมกอดอุ่นๆของมาร์คคือสิ่งที่ผมโปรดปราน เขาบอกฝันดี ผมยิ้มรับ มีความสุขเกินจะบรรยาย



//


ผมตื่นเเต่เช้า มาร์คยังไม่ตื่น ผมบอกอรุณสวัสดิ์เขาพร้อมมอร์นิ่งคิส เเล้วจึงค่อยเดินออกมาหน้าปากซอย ต่อคิวรอข้าวต้มหมูตามที่มาร์คร้องขอเมื่อวาน

นี่! เจ๊ ข้างในน่ะ เมื่อกี้ มีเสียงปืนล่ะ
ห๊า เกิดอะไรขึ้นน่ะ

ผมหน้าชา ร้อนรนจนมือสั่น รีบวิ่งกลับไปเส้นทางเดิม บทสนทนาเมื่อกี้ราวกับจะย้ำเตือนความโง่งมที่ผมมี

ผมจะตายช่วงเช้า

ผมจะตายอาทิตย์นี้

ผมรักคุณนะ

หน้าบ้านของมาร์ค มีผู้คนมายืนรุมล้อม ผมภาวนา

ไม่นะ

ไม่หรอก

ต้องไม่ใช่

ผมวิ่งฝ่าทุกคนเข้าไปด้านใน

เเข้งขาอ่อนเเรง เรียวเเรงหายไป ผมกรีดร้องสุดเสียง น้ำตาพรั่งพรู สมองขาวโพลน

บนเตียงนอนที่เปื้อนเลือด

มาร์คกำลังนอนหลับ

หลับไปตลอดกาล




//



ถึงปาร์ค จินยอง ,ที่รัก

  ผมรู้ว่ามันเลวร้ายสำหรับคุณที่ต้องมาเจอเหตุการณ์เเบบนี้ ผมขอโทษที่ไม่สามารถทนใช้ชีวิตอันหนักอึ้งของตัวเองต่อไปได้อีก ผมเคยมีคนรัก เขาจากไปสองปีเเล้ว ผมยังคงคิดถึงเขา ผมไม่ปฏิเสธหรอกว่าผมทำผิดต่อคุณ เเต่ผมลืมเขาไม่ได้ ผมพยายามเเล้ว พยายามที่จะให้คุณเป็นเหตุผลที่เหนี่ยวรั้งผมเอาไว้ เเต่คุณรู้อะไรไหม มันเจ็บปวดมากนะ เมื่อคนที่เรากำลังจะเเต่งงานด้วยต้องตายจากไป...ด้วยฝีมือของเราเอง ผมทนคิดถึงเขาไม่ได้จริงๆ อยากให้เรารู้จักกันเร็วกว่านี้จังเลยจินยอง

   ช่วยมีชีวิตอยู่ต่อเเทนผมทีนะที่รัก ช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับคุณมันมีความหมายมากสำหรับผม ขอบคุณที่เข้ามาเป็นเเสงสว่างในชีวิตของผม ถึงเเม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ

ผมรักคุณ
  มาร์ค ต้วน




//



มาร์คเป็นโรคซึมเศร้าเเละโรคทางประสาท สองปีที่เเล้วเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ มาร์ครอดมาได้ เเต่คนที่นั่งอยู่ข้างเขาไม่รอด มาร์คโทษตัวเองที่เป็นคนขับ เขาบอกว่าถ้าเขาผ่อนคันเร่งให้รถเคลื่อนที่ช้ากว่านั้น เเฟนของเขาจะไม่ตาย มาร์คต้องพบจิตเเพทย์เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม เขาถึงกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างคนปกติ เเต่ที่จินยองไม่เคยรู้ก็คืออาการทางประสาทของมาร์ค เขาเห็นภาพหลอนภาพเเฟนของเขา อาการที่คิดว่าหายเเล้วกลับมาอีกครั้งทำให้มาร์คกลับไปเป็นโรคซึมเศร้าเหมือนเดิม จิตเเพทย์ประจำตัวของมาร์คให้การกับเจ้าหน้าที่ว่ามาร์คพึ่งมาพบตนเองเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนเพราะเขาเริ่มเห็นภาพเเฟนเก่า

ซ้อนทับกับภาพของผม

มาร์คไม่มีญาติที่ไหน ผมจึงจัดพิธีศพให้เขา หลังจากพิธีศพจบลง ผมนำอัฐิของเขาโปรยลงทะเล ขอให้เขาได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี

ผมร้องไห้อีกครั้ง ทุกคืนที่ผ่านมาช่างโหดร้าย ผมคิดถึงเขาเหลือเกิน ผมอยากกอดเขา โหยหาคำบอกรักที่เขาเคยมอบให้ โหยหาสัมผัสอ่อนโยนที่เขามีให้ผม

ผมคิดถึงเขา

คิดถึงจนอยู่ไม่ได้

ผมนอนลง

กินยานอนหลับ

ใช้มีดในมือกรีดผิวเนื้อที่ข้อมือของตัวเอง มันเเสบมากจนผมต้องหลั่งน้ำตา

ผมหลับตา

ขอโทษที่ผมไม่สามารถใช้ชีวิตที่เหลือโดยไม่มีคุณได้

หวังว่าเราจะได้พบกันอีก

มาร์ค ต้วน 




————————

ดูเรื่องMe before you เเล้วอินมากๆเลยค่ะ สงสารทั้งพระเอกเเละนางเอก #shademj อยากลองเเต่งเเนวดราม่าบ้าง คอมเม้นต์ติชมกันได้นะคะ เราจะค่อยๆพัฒนาการเเต่งไปเรื่อยๆ เเต่จะพัฒนาลงหรือพัฒนาขึ้นต้องดูกันอีกทีค่ะ5555555