วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Break up #MarkJin



-B R E A K U P-




'คนบอกเลิกมีสิทธิ์พูดคำนี้ด้วยหรอ'

ปาร์ค จินยองถามตัวเองเป็นครั้งที่ร้อยว่าคนอย่างเขามีสิทธิ์ทำอะไรได้บ้าง

เเม้เเต่ในตอนนี้ ตอนที่คนที่รักสุดหัวใจกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา

"เอากุญเเจห้องคืนไป ผมไม่อยากเก็บไว้" ร่างสูงยื่นกุญเเจห้องที่คุ้นตามาตรงหน้าเขา ปาร์ค จินยอง กัดริมฝีปากด้วยความไม่มั่นใจ ยิ่งมองใบหน้าเรียบนิ่งไรชีวิตชีวาของคนตรงหน้าด้วยเเล้ว เขายิ่งไม่มั่นใจกับการนัดเจอกันครั้งนี้

"พี่ให้มาร์คเก็บไว้เเหละ พี่ไม่ได้อยากเลิกจริงๆมาร์คก็รู้" จินยองสบดวงตาเรียวเข้มของอีกคน ที่มองตรงมาทางเขาด้วยความสับสน เขาเเอบดีใจที่อย่างน้อยมาร์คก็ยังรู้สึกสับสนกับการกระทำของเขา

เพราะนั่นเเปลว่ามาร์คยังรักเขาอยู่

"คำว่าห่างกันสักพักกับเลิกกันเถอะมันก็ไม่ได้ต่างกันนักหรอก" มาร์คทวนคำที่เคยพูดออกมาเเล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่เรายังคงคบกัน

เเละเป็นเขาเอง-ปาร์คจินยองคนนี้ ที่ทำให้เรื่องระหว่างเรามันพัง

"มันไม่ต่างสำหรับมาร์คเเต่สำหรับพี่มันต่าง" เขาก็ทวนคำพูดที่เคยพูดไปเเล้วเช่นกัน สำหรับคนอื่นไม่ว่าคำพูดพวกนั้นจะหมายความว่าอย่างไร เเต่สำหรับจินยอง คำว่าเลิกคือการหมดรัก

เเต่เขาไม่ได้หมดรัก

"เอาคืนไป" มาร์คจับกุญเเจห้องยัดใส่มือของเขาพร้อมเเววตาที่เริ่มมีความหงุดหงิดฉายชัด

"ไม่ พี่เเค่ขอให้เราสองคนลองห่างกันดูบ้าง เผื่อว่าอะไรๆมันจะดีขึ้น" จินยองดึงมือมาร์คมารับมันกลับไป เขาจะไม่ยอมให้เรื่องของเรามันจบลงเเค่นี้เเน่ๆ

เเค่ความผิดพลาดครั้งเดียว

มันจะเปลี่ยนชีวิตของเขาไม่ได้

"มันไม่เคยมีอะไรดีขึ้นเวลาคนรักกันต้องห่างกันหรอกนะจินยอง" มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง

เป็นเพราะเขาเอง

เพราะจินยองเอง

"พี่ขอโทษ เเต่พี่ยังไม่อยากเลิกกับมาร์คจริงๆ พี่รักมาร์คนะ" จินยองเงยหน้าสบตาชายคนที่ได้ครอบครองหัวใจของเขา เขาจับมือมาร์คมากุมไว้ ก่อนจะพูดความรู้สึกจริงๆออกไป เผื่อว่ามันจะยังรั้งมาร์คเอาไว้ได้

"คำว่ารักของพี่มันโคตรไม่มีน้ำหนักเลย ในเมื่อการกระทำมันไปอีกทาง" มาร์คยังคงนิ่ง ใบหน้าหล่อเหลายังคงนิ่งรวมถึงร่างกายที่ไม่ขยับไปไหน

มาร์คไม่ดึงมือที่จินยองกุมไว้ออก เเต่ก็ไม่กุมมือเขาเอาไว้ จินยองส่ายหน้ารัว น้ำตาเริ่มเอ่อล้นมาที่ขอบตา

"พี่ขอร้อง พี่ยังรักมาร์คอยู่จริงๆ" จินยองบีบมือที่กุมมือมาร์คไว้เเน่นขึ้น สบนัยตาคมที่ครั้งหนึ่งเคยมีเเต่เววอ่อนโยนมอบให้เขาเเต่เพียงผู้เดียว

เเล้วก็เป็นเขาอีกนั่นเเหละที่ทำลายมันทิ้ง

"พอเถอะครับ เลิกก็คือเลิก พี่เป็นคนบอกเลิกผมเองด้วยซ้ำ" มาร์คปฏิเสธอีกครั้งด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองเจือเเววหงุดหงิด

"พี่ไม่ได้ตั้งใจพูด มาร์คยั่วโมโหพี่ พี่ขอโทษ" จินยองยังคงรั้งมาร์คด้วยคำว่าขอโทษเเละบีบมือของมาร์คให้เเน่นขึ้น

ราวกับกำลังกลัวว่าถ้าปล่อยมือนี้ มาร์คจะหายไปตลอดกาล

"ผมไม่ได้ยั่วโมโห จินยองเองต่างหากที่เปลี่ยนไป ปกติทะเลาะกันจะตายเเค่ไหนจินยองก็ไม่เคยบอกเลิก นี่ก็คงมากพอให้มาร์ครู้เเล้วว่าจินยองรักเค้ามากกว่า"

"ไม่ พี่รักมาร์ค พี่ขอโทษ อย่าไปจากพี่เลยนะ ขอร้องล่ะ" จินยองส่ายหน้ารัว มาร์คดึงมือออกจากมือของเขา จินยองกุมมือมาร์คเเน่นขึ้นไม่ยอมปล่อย เเต่เเรงเขาก็น้อยกว่ามาร์คอยู่ดี

มือที่เคยกอบกุมกัน มือที่เคยส่งผ่านความอ่อนโยนคู่นั้นกำลังหายไป ถึงเเม้จะอยากจับมือนั้นไว้ บีบให้เเน่นเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้มือคู่นี้หายไป

เเต่มือที่ยิ่งบีบเเน่นก็จะยิ่งเจ็บ

"ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมานะครับ ผมมีความสุขมากเลย" มาร์คใส่กุญเเจห้องเอาไว้ในมือของเขา หันหลังเเล้วเดินจากไป จินยองทิ้งตัวลงนั่งอย่างคนหมดเเรง น้ำตามากมายไหลออกมาจากดวงตาราวกับเขื่อนเเตก

ถ้าวันนั้นเขาไม่ใช้อารมณ์ตอนคุยกับมาร์ค

ถ้าตอนนั้นเขาไม่ไปหลงชอบคนอื่น

ถ้าตอนนั้นเขามีสติมากกว่านี้

เรื่องเเบบนี้มันคงไม่เกิดขึ้น



'พี่เลือกมาเลยดีกว่าว่าจะเลือกมาร์คหรือมัน' ร่างสูงถามคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนที่นอนด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเมื่อตนเองพึ่งได้รับรู้จากปากของคนเป็นเเฟนว่าเจ้าตัวกำลังคุยอยู่กับคนอื่น

'มาร์คอย่างี่เง่าได้ปะ พี่เลือกไม่ได้' จินยองขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์

'ทำไมเลือกไม่ได้ พี่ไม่ได้รักมาร์คเเล้วใช่มั้ย'

'พี่รักมาร์ค เเต่พี่ก็ชอบเขา'

'งั้นพี่ต้องเลือก มาร์คไม่ยอมเเบ่งเเฟนใช้กับคนอื่นหรอกนะ' มาร์คถามอีกคนด้วยอารมณ์ที่เริ่มเดือด หัวคิ้วของชายหนุ่มขมวดมุ่นอย่างไม่พอใจ

'พี่เลือกไม่ได้ไง'

'ในเมื่อพี่รักมาร์คเเล้วทำไมพี่ถึงเลือกไม่ได้'

'มาร์คไม่เข้าใจพี่อะ พี่ว่าเราห่างกันสักพักไหม' จินยองถอนหายใจเเล้วเอ่ยถามคนตรงหน้า มาร์คนิ่งไปทันทีเพราะไม่คิดว่าจินยองจะพูดกับตนเเบบนี้

'ถ้าจะห่างกันทำไมไม่เลิกไปเลยวะ' เส้นอารมณ์ของมาร์คขาดผึ่ง ชายหนุ่มใช้น้ำเสียงถามร่างบางตรงหน้าอย่างต้องการหาเรื่อง

'พี่ไม่ได้อยากเลิก' จินยองยังคงใช้น้ำเย็นเข้าสู้ เขารู้ดีว่าคนร้อนเป็นไฟเเบบมาร์ค ถ้าใช้อารมณ์ด้วยมันจะยิ่งไปกันใหญ่

'คำว่าห่างกันกับเลิกก็เหมือนกันเเหละ'

'สำหรับพี่มันไม่เหมือน เราห่างกันสักพักเถอะ'

'ถ้าพี่อยากเลิกมากก็บอกเลิกเลยไม่ดีกว่าหรอวะ'

'พี่ไม่เลิก'

'พี่จะรั้งมาร์คไว้ทำไม อยากอยู่กับมันมากก็เลิกกับมาร์คเลย'

'พี่รักมาร์คไง'

'พี่เเม่งโคตรเห็นเเก่ตัว รักเเล้วทำไมไม่เลือกมาร์ควะ!' คำว่าเห็นเเก่ตัวที่อีกคนพูดทำเอาจินยองก็เริ่มหัวร้อนเเล้วเช่นกัน ชายหนุ่มถามอีกคนกลับเสียงดัง

'ก็พี่เลือกไม่ได้ มาร์คไม่เข้าใจหรอวะ'

'เออ ไม่เข้าใจ ถ้าพี่รักมาร์คก็เลิกกับมันดิ!' มาร์คจึงใช้เสียงที่ดังขึ้นเพื่อเถียงกลับ จินยองเริ่มโมโหเเล้วเช่นกัน

ในเมื่อใช้น้ำเย็นไม่ได้ผล งั้นก็ช่างเเม่งเเล้ว!

'พี่เลิกกับเค้าไม่ได้!'

'ทำไมเลิกไม่ได้!'

'เพราะพี่ชอบเขา!'

'ถ้าพี่ชอบมัน งั้นก็เลิกกับมาร์คเลย!' มาร์คท้าทายกลับไปอย่างคนไม่ยอมเเพ้ ซึ่งจินยองก็หมดความอดทนเเล้วเช่นกัน

'เออได้!! อยากเลิกนักใช่มั้ย เลิกก็เลิก!!' เขาพูดจบก็เดินออกจากห้องของมาร์คทันที จินยองไม่เเม้เเต่จะหันกลับไปมองใบหน้าสีซีดของมาร์คตอนที่ได้ยินคำว่า เลิก จากปากของเขา ชายหนุ่มทำเพียงเเค่เดินหันหลังออกไป

เหมือนที่มาร์คกำลังทำกับเขาอยู่ตอนนี้

ถึงเขาจะอยากกลับไปหามาร์คมากเเค่ไหน อยากกลับไปให้มาร์คกอด ให้มาร์คจูบ อยากกลับไปให้มาร์คบอกรักเขาอีกครั้งมากเเค่ไหน

ตอนนี้เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำเเบบนั้นอีกเเล้ว

เเล้วคนบอกเลิกอย่างเขา

มีสิทธิ์ทำอะไรได้บ้าง


----------------

เป็นคนบอกเลิกก็จะหน่วงๆหน่อยค่ะ เเฮ่ อารมณ์ไหนไม่รู้มาเเต่งเเนวเศร้าสร้อย ห่างหายจากการเเต่งฟิคไปนาน รู้สึกว่าภาษาสนิมเกาะเลยค่ะ เเหะๆ  หวีดได้ใน #shademj นะคะ ซารางเง


วันอังคารที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2560

[เเก้บน] Save me #MarkJin





-S A V E M E-





"เรารู้นะว่ามาร์คชอบมัน" เสียงหวานเอ่ยเสียงเข้ม ไม่ดังนักหากกลับให้ความรู้สึกถึงการหาเรื่อง

"ไร้สาระน่าจินยอง" ชายหนุ่มเจ้าของชื่อ 'มาร์ค' เงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์ที่ตนเองถืออยู่ตอบคนรักอย่างไม่ใส่ใจนัก

"มีคนเอานี่ให้เราดู" กระดาษหนึ่งเเผ่นถูกยื่นมาตรงหน้า ชายหนุ่มเงยหน้ามองอีกครั้ง


มันเป็นรูปเขา

กำลังจูบยองเเจ


"ทำไมมาร์คไม่บอกเราตรงๆล่ะ เราจะได้เปิดทางให้" น้ำเสียงของคนรักตัดพ้อเขาทำเอาหัวใจบีบรัดเเน่น

"มันไม่จริงนะจินยอง ฟังมาร์คก่อน"


ไม่จริง เขาไม่ได้จูบยองเเจ

รูปนั้นมันไม่ใช่


"ไม่ฟัง! จินยองไม่ฟังอะไรทั้งนั้นอะ ถ้ามาร์ครักมันมากก็ไปอยู่กับมันเลย!" ดวงตากลมโตที่เขาหวงเเหนเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา เสียงหวานสั่นด้วยความโกรธ

"มาร์ครักจินยอง" เขาเอ่ยคำพูดพร้อมสายตาที่จริงใจที่สุดให้คนรัก หากเเต่จินยองกลับมองไม่เห็นมัน

"เราบอกให้มาร์คไปไง!!" ร่างบางตะโกนเสรยงดังอย่างเหลืออด

"มาร์คไม่ไป!" เขาตอบกลับบ้าง จินยองลืมตามองเขา ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธจัด

"งั้นเราไปเอง!" ว่าจบจินยองก็วิ่งออกจากบ้านไปพร้อมกับกุญเเจรถ มาร์ควิ่งตามคนรักไปติดๆ พยายามดึงตัวของจินยองเข้ามากอด หากเเต่ร่างบางก็เอาเเต่ผลักไสเขา

สุดท้ายจินยองก็ขับรถออกไป

มาร์คไม่รอช้าที่จะขับตามรถของคนรักไป เขาต้องการจะเคลียเรื่องนี้

มันไม่ใช่เเบบที่จินยองคิด

เขารักจินยองมากเกินกว่าจะทำอะไรเเบบนั้นได้ สาบานเลย




////





ผิดหวัง

เสียใจ

ความรู้สึกด้านลบถาโถมเข้ามาในจิตใจของจินยองจนร่างบางอยากจะกรีดร้องให้สุดเสียง

หยาดน้ำตามากมายเอ่อขึ้นมาขัดการมองเห็นให้ภาพตรงหน้าเบลอ จินยองพยายามปาดน้ำตาออก เพราะคงไม่ดีนักหากเขายังขับรถโดยที่มองทางไม่ชัดเเบบนี้

เเต่ภาพที่คนรักจูบกับคนอื่นมันยังคงติดตา จินยองใช้มือปาดน้ำตาอีกครั้ง หากเเต่ครั้งนี้เขาไม่ได้มองทาง

เเอ้ดดดด

เสียงเบรคดังยาวราวกับจะเเจ้งบอกเหตุให้คนอื่นได้รู้

ใบหน้าหวานซีดเผือด หักรถหลบรถบรรทุกคันใหญ่โดยไม่ทันคิด

จินยองรู้สึกวูบโหวง ร่างกายเบาหวิวไม่นานรถทั้งคันก็ตกลงสู่พื้นเบื้องล่าง

ตูม!

รู้สึกตัวอีกทีรถของเขาก็ลอยอยู่กลางทะเลเเถมกำลังจะจม จินยองพยายามถอดที่คาดเข็มขัดนิรภัยออก ก่อนจะเปิดประตูรถ หากเเต่ไม่เป็นผลเมื่อเขาดันประตูเท่าไรก็ไม่มีท่าทีขยับ รถค่อยๆจมลงสู่เบื้องล่างเรื่อยๆ จินยองกลั้นหายใจก่อนจะพยายามผลักประตูอีกครั้ง จนกระทั่งลมหายใจของเขาเริ่มหมดลง

ใครก็ได้ช่วยด้วย

จินยองทั้งถีบทั้งผลัก ออกเเรงจนเหนื่อยประตูรถก็ไม่มีท่าทีจะเปิดให้เขา

ร่างบางหลับตาอย่างสิ้นหวัง เขานั่งคิดเรื่องที่พึ่งผ่านมาก็เสียใจ นี่เขาต้องมาตายโดยที่พึ่งทะเลาะกับมาร์คมาหรอ

ถ้าเขารู้ว่ามันจะเป็นครั้งทุกท้าย เขาคงไม่ทำ

จินยองหลับตาทำใจให้สงบ สติที่มีค่อยๆเลือนลางลงทุกที ความรู้สึกสุดท้ายที่รับรู้คืออ้อมกอดของใครบางคน





////





[Mark Part]

"จินยอง!"

"จินยองตื่นสิ!"

มาร์คอุ้มร่างบางขึ้นมาจากน้ำด้วยความลำบาก มือสากตบเเก้มคนที่นอนนิ่งไม่ไหวติงให้มีสติ ลมหายใจของคนในอ้อมเเขนเเผ่วเบาจนมาร์คกลัว

เขาวงร่างบางลงบนพื้นเบามือ จัดการทำปฐมพยาบาลเบื้องต้น ปั้มหัวใจเเละผาบปอด มาร์คทำเเบบนั้นอยู่นานจนกระทั่งคนที่นอนหมดสติเมื่อครู่กระตุก เเละสำลักน้ำออกมา

"จินยอง!" ชายหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อคนรักด้วยความโล่งใจ มาร์คร้องไห้โผเข้ากอดจินยองด้วยความดีใจ

"ม..มาร์ค"

"ฮึก มาร์คขอโทษนะ" เขาเอ่ยขอโทษจินยองราวคนบ้าคลั่ง กอดร่างบางเเน่นราวกับว่าจินยองจะหายไปกับอากาศ

.
.
.

เขาขับรถตามจินยองออกมา มาร์คคิดว่าเขาควรทำอะไรสักอย่างไม่ใช่ให้คนรักวิ่งหนีไปเเบบนั้น เเล้วเขาก็ทันเห็นรถของจินยองตกลงไปในทะเล...

มาร์คยอมรับว่าเขาทำอะไรไม่ถูก เขาพยายามควบคุมสติของตัวเองจากนั้นก็หาทางช่วยร่างบาง

จนตอนนี้คนที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างเขาก็รอด
ตายเเล้ว เขาพาจินยองไปโรงพยาบาลเเล้ว หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก กลับบ้านได้

"มาร์ค"

"หืม"

"ขอบคุณนะ"

"ขอบคุณทำไม มาร์คต้องช่วยเเฟนตัวเองอยู่เเล้ว"

"หรอ"

"นี่ยังไม่หายโกรธเรื่องยองเเจอีกหรอ มาร์คกับยองเเจไม่มีอะไรกันจริงๆนะ"

"หรอ"

"เห้อ สงสัยมาร์คคงต้องบอกความจริงเเล้ว" ผมถอนหายใจออกมาอย่างหมดหดทาง ถ้าไม่บอกจินยองก็จะยังคงโกรธเเบบนี้ต่อไปเเน่ๆ

"อะไรอะ"

"จริงๆเเล้วมาร์คขอให้ยองเเจช่วยเรื่องนึงนะ" ผมบอกร่างบาง สายตาก็จ้องมองถนนตรงหน้า

"เรื่องอะไร?"

"วันเกิดจินยองนั่นล่ะ เห้อ ไม่เซอร์ไพรสเเล้ว" ผมพูดออกมาอย่างปลงๆ

เอาเหอะ ไม่อยากทะเลาะกับจินยองเลย

"หือ มาร์คว่าไงนะ" คนข้างกายเขาเอียงคอมองอย่างน่ารัก ทำเเบยนี้เขาก็โกรธไม่ลงกันพอดี

"ก็มันจะถึงวันเกิดนายเเล้วไม่ใช่หรือไง มาร์คเลยขอให้ยองเเจช่วยจัดงานให้นาย คิดไว้ว่าจะเซอร์ไพรสซักหน่อย เห้อ" ผมถอนหายใจออกมาอีกรอบ

"อ่า.." คนข้างกายเขาพยักหน้าหงึกหงัก

"..." ผมก็ขับรถต่อไป ในใจนี่เฟลสุดๆ กะจะเซอร์ไพรส ที่ไหนได้ เห้อ เเผนพังไม่เป็นท่าเลย


อย่าให้รู้นะว่าใครที่เป็นคนส่งรูปเจ้าปัญหานั่นให้จินยอง พ่อจะจับสับจับต้มเเดกให้หมด

"ขอโทษนะ" เสียงพูดอ่อยๆของจินยองทำให้เขาต้องเหล่ตามองนิดๆ

"ช่างมันเถอะ" ผมบอกปัดไป เออ ช่างเเม่งเเล้ว เอาไว้ทำอย่างอื่นให้ก็ได้

"มาร์ค"

"หืม" เขาขานรับเสียงเรียกของคนรักเบาๆ


จุ๊บ


"อย่าโกรธจินยองเลยนะ"

เชี่ย

จินยองจุ๊บเเก้มผม

ร้อยวันพันปี คุณชายปาร์คผู้เย่อหยิ่งไม่เคยทำอะไรเเบบนี้

ให้ตายเหอะ

ผมตกใจจนเกือบหักรถชนเสาไฟฟ้าข้างทางเเล้วมั้ยละ

"..." ผมหันหน้าไปมองจินยองอย่างอึ้งๆ เป็นเเฟนกันมาจะปีนึงเเล้ง ทำได้มากสุดเเค่จับมือ คุณคิดดูดิ ปีนึงเลยนะเว้ย

เเต่เมื่อกี้คนหวงตัวพึ่งเอาปากนิ่มๆมาเเนบกับเเก้มผม

เหี้ย เขิน

"ดีกันนะ"

"..." จินยองยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าผมเเล้วส่ายไปมา ผมเหล่มองอีกคนเเล้วกลับมาสนใจเส้นทางบนถนนต่อ

"ดีกันน้าาาาา"

"หึ" ผมอมยิ้มนิดๆก่อนจะปล่อยมือนึงจากพวงมาลัยขับรถ ยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับฝ่ามือบาง

"รักนะมาร์ค"

"อืม"

"รักมากเลย"

"อื้ม"

ผมยิ้มเเก้มเเทบเเตก นานๆทีจินยองจะเลิกบอสใส่ผมนะเนี่ย โอ้ยให้ตายเหอะ พอเลิกบอสทีก็โคตรน่ารัก ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้ด้วยวะจินยอง โอ้ย!!!!!



----------------

โอ้ยยยย จินยองเลิกบอสทีก็น่ารักงี้เเหละมาร์ค ทำใจนะๆ #shademj

Request by @Thinkofmark เเงง ขอโทษด้วยค่ะที่อัพช้า~~TT


วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560

[เเก้บน] Annoying #MarkJin



-A N N O Y I N G-


"นายมันน่ารำคาญรู้ตัวบ้างไหมห้ะ" ร่างสูงโปร่งตะคอกเสียงดังจนคนที่กอดเเขนอยู่สะดุ้งตกใจ ยิ่งถ้อยคำทำร้ายจิตใจถูกเอ่ยออกมาจากริมฝีปากหยักที่ครั้งนึงเคยเอ่ยเเต่ถ้อยคำหวาบหวาม ยิ่งทำให้ร่างที่กอดเเขนอยู่สะอื้นหนักกว่าเก่า

"ฮึก ไม่ให้ไป จินยองไม่ให้มาร์คไป" ร่างบางสะบัดหัวไปมาพลางกอดเเขนอีกคนเเน่นกว่าเดิม

"โอ้ย ปล่อย!" ร่างสูงพยายามดึงเเขนอีกคนออก ทั้งสองฉุดกระชากกันไปมา ผิวเนื้อขาวเนียนของจินยองเป็นรอยเเดงช้ำทั้งตัวเนื่องจากเเรงที่อีกคนใช้ผลักเขา

"ฮึกฮือออออ"

ปัง!

เสียงประตูปิดลงเหมือนเสียงขาดสะบั้นของความรู้สึก

สุดท้ายมาร์คก็ชนะอีกเหมือนเคย จินยองทรุดตัวลงมือทั้งสองข้างยกขึ้นมาปิดหน้าไว้ น้ำใสไหลรินเป็นทางยาว เสียงสะอื้นดังก้องห้องที่เงียบเหงา ริมฝีปากอิ่มสั่นระริก เเขนทั้งสองข้างเเดงเถือกจนน่ากลัว

มันไม่ใช่ครั้งเเรกที่เขากับมาร์คทะเลาะกัน เเละทุกครั้งก็มักจะจบลงเเบบนี้

เเบบที่เขานั่งร้องไห้เป็นบ้าเป็นบออยู่คนเดียวเเบบนี้

ไม่เอาเเล้ว จินยองคิดว่าเขาควรพอสักที กับผู้ชายคนนั้น คนที่เอ่ยคำว่ารักเฉพาะตอนเมา คนที่ไม่เคยใส่ใจเขาสักอย่าง จินยองพอเเล้ว

ร่างบางปาดน้ำตาที่เฉอะเเฉะไปทั้งหน้าออก ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้า






////






เเละทุกครั้งที่เขาคิดว่าเขาพอเเล้วกับผู้ชายคนนั้น

ผู้ชายคนนั้นก็มักจะกลับมาพร้อมวิธีการสักวิธีที่จะทำให้เขาใจอ่อน

"มาร์คจำได้ว่าจินยองชอบกินเค้กส้ม" ผู้ชายคนนั้นวางกล่องเค้กที่มีของกินสีส้มน่าตาน่าทานอยู่ข้างในตรงหน้าเขา จินยองตาบวมช้ำจากการร้องไห้มานาน ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มนิดหนึ่งห่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้เขารู้สึกหัวใจหนักอึ้ง

"ขอบคุณนะมาร์ค"

"นี่ คืนนี้ไปกินข้าวข้างนอกกันไหม มาร์คอยากกินสเตก"

"อื้ม ไปสิ"

เขาไม่เคยขัดใจมาร์ค ไม่ใช่ว่าอยากทำหรืออยากลองทำ เเต่เขาไม่อยากขัดใจมาร์คมากกว่า

เขารักผู้ชายคนนั้นมากเกินกว่าจะขัดใจได้ลง

.
.

"มาร์คจะไปไหนหรอ"

"พอดีเพื่อนนัดปาร์ตี้ วันนี้กลับดึกนะ"

เเล้วจินยองจะพูดอะไรได้เมื่อเขาไม่ได้สำคัญขนาดที่มีสิทธ์ออกเสียงอะไร ที่เขาทำได้ก็เพียงเเค่มองดูเเผ่นหลังของคนที่เขารักเดินลับสายตาไป

ไม่ได้สำคัญอะไรเลย เเม่กระทั่งคำชวนที่นัดกันไว้ก่อนหน้านั้นยังไม่สำคัญเลย

จินยองนั่งนิ่ง

เขาควรซื้อเนื้อมาย่างไว้ให้มาร์คดีไหมนะ อยากกินสเตกนี่

พอคิดได้ดังนั้นร่างบางก็ลุกขึ้น รอยยิ้มเเย้มอยู่บนใบหน้าหวาน ดวงตาเป็นประกายระริกนึกถึงใบหน้าของผู้ชายคนนั้นยามกลับบ้านมาเเล้วเห็นเขาทำอาหารไว้ให้

มาร์คต้องดีใจเเน่ๆ





////






"รอทำไม ก็บอกว่าวันนี้กลับดึก" เสียงทักเเรกของคนที่พึ่งกลับบ้านมาในเวลาเที่ยงคืนตรงทำให่จินยองที่กำลังฟุบหน้าอยู่ที่โต๊ะเงยหน้ามามองด้วยความตกใจนิดๆ

"จินยองทำสเตกไว้ให้มาร์คด้วยนะ เดี๋ยวเอาไปอุ่นให้ รอ--"

"ไม่ละ อิ่มเเล้ว" มาร์คว่าพลางเดินผ่านเขาไปยังตู้เย็น หยิบน้ำออกมาเทใส่เเก้ว

"งั้นเก็บไว้กินพรุ่ง--"

"เลิกเซ้าซี้สักทีได้ไหมห้ะ" มาร์คหันมามองเขาด้วยใบหน้าที่เเสดงอารมณ์ 'น่ารำคาญ' เต็มที่ใส่เขา

"นับวันนายจะยิ่งน่ารำคาญมากเกินไปเเล้วนะ"

"เลิกยุ่งกับฉันสักทีเถอะ" ว่าจบก็เดินเข้าห้องนอนไปโดยไม่หันกลับมามองผลของคำพูดนั้นสักนิด


เลิกยุ่งกับฉันสักที


เลิกยุ่งสักที


เลิกยุ่ง


เลิก


จินยองหน้าชาราวกับมีใครเอาน้ำร้อนมาสาดใส่


นี่มันมากเกินไปเเล้ว


น่ารำคาญหรอ


เซ้าซี้หรอ


ให้เลิกยุ่งหรอ


คำพวกนี้เเฟนกันเขาควรพูดใส่กันหรอ

หรือว่ามาร์คเบื่อเขาเเล้วงั้นหรอ

"มาร์คเบื่อจินยองเเล้วงั้นหรอ" ร่างบางเดินเข้าไปในห้อง เจอคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเเฟนนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง รอยยิ้มที่ช่วงนี้จินยองไม่ได้รับเผยออกมาอย่างง่ายดาย เเต่พอคนรักเงยหน้ามามองเขา

รอยยิ้มก็หายไป

"อะไรอีก"

เเต่กลับถูกเเทนที่ด้วยถ้อยคำรำคาญใจ

"มาร์คอยากเลิกกับจินยองมั้ย"

"อย่ามาตอเเยได้ไหม มานอนได้เเล้ว" มาร์คเอ่ยเสียงหงุดหงิดเต็มที่เเล้วกลับไปสนใจโทรศัพท์ในมือต่อ

น้ำตาเม็ดเเรกไหลอาบเเก้มร่วงหล่นลงพื้นเบื้องล่าง

"ขอโทษที่น่ารำคาญนะมาร์ค จินยองจะไปเเล้ว จะไม่มาให้มาร์คเห็นหน้าอีก ขอโทษนะ"  จินยองเม้มปากเเน่นกลั้นกลืนเสียงสะอื้นไว้ หันหลังให้กับคนรักเเล้วเปิดประตูออกจากห้องมา

มาร์คมองเเผ่นหลังของคนที่ขึ้นชื่อว่าเเฟนอย่างเหนื่อยหน่ายใจ

ทำไมจินยองน่ารำคาญจัง

ชายหนุ่มไม่คิดจะตามไปเพราะเจ้าตัวคิดว่ายังไงเดี๋ยวคนรักก็กลับมาเอง

ซึ่งมาร์คคิดผิด

ชายหนุ่มคิดผิดที่ไม่เดินตามเเผ่นหลังของคนรักออกมาในคืนนั้น





////





Rrrr

เสียงริงโทนโทรศัพท์ดังขึ้นในยามวิกาลทำเอาชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับฝันดีต้องสาปเเช่งคนที่โทรมาอยู่หลายหนก่อนจะเอื้อมตัวไปกดรับมันได้

"สวัสดีค่ะ ดิฉันโทรมาจากโรงพยาบาลxxx ไม่ทราบว่าคุณเป็นญาติของเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้หรือเปล่าคะ"

มาร์คนิ่งงัน

เสียงผู้หญิงที่ลอดผ่านลำโพงของสมาร์ทโฟนเครื่องหรูไม่ได้รับความสนใจอีกต่อไป ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบลุกขึ้นหยิบกุญเเจรถพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัว
มาร์คมาถึงโรงพยาบาลในเวลาไม่นาน ที่ตั้งของโรงพยาบาลไม่ห่างจากคอนโดที่พวกเขาอยู่เท่าไหร่นัก ร่างโปร่งตรงดิ่งไปยังเคาท์เตอร์บริการพร้อมกับถามถึงคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเเฟนเขาด้วยความเป็นห่วงสุดซึ้ง

"อย่าเป็นอะไรนะ อย่าเป็นอะไรเลย" มาร์คเดินวนรอบหน้าห้องผ่าตัดหลังจากที่นางพยาบาลเอาเอกสารอะไรก็ไม่รู้มาให้เขาเขียน เขายังไม่รู้เลยว่าที่เขียนไปมันมีอะไรบ้าง ตอนนี้ชายหนุ่มสติหลุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

จินยองโดนรถชนเเล้วหนี เเฟนของเขากำลังจะวิ่งข้ามทางถนนเเล้วอยู่ๆก็มีรถที่ไหนไม่รู้ขับชนเเล้วก็หนีไป นี่เป็นคำบอกเล่าของคนที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ

เขาไม่น่าเลย

ไม่น่าไล่จินยองไปเลย

"อย่าเป็นอะไรนะจินยอง" มาร์คนั่งกุมมือทั้งสองข้างพร้อมภาวนา เขาไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งตัวเองต้องมาทำอะไรโง่ๆเเบบนี้

พระเจ้าช่วยผมหน่อย

คนเลวอย่างผมไม่สมควรได้รับพร เเต่จินยองไม่ใช่ เเฟนผมเป็นคนดี ได้โปรด อย่าพรากเขาไม่จากผมเลย


ปึก

เสียงเปิดประตูเรียกให้มาร์คเงยหน้าขึ้นมองอย่างรวดเร็ว พอเห็นว่าคนที่เดินออกมาเป็นคุณหมอชายหนุ่มก็ไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปถามอาการคนรัก

"หมอครับ จินยองเป็นยังไงบ้าง"

"คนไข้ปลอดภัยเเล้วครับ เเต่คนไข้ได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองเล็กน้อย ซึ่งส่วนนี้ผมยังไม่เเน่ใจว่าผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร ยังไงก็ตามให้คนไข้พักดูอาการจนกว่าจะฟื้นนะครับ"

"ขอบคุณครับหมอ ขอบคุณ" มาร์คก้มหัวให้คุณหมอด้วยความรู้สึกขอบคุณจริงๆ บุรุษพยาบาลสองคนเข็ญเตียงผู้ป่วยออกมา

ความรู้สึกผิดถาโถมใส่เขาจนชายหนุ่มตั้งตัวไปติด เขาเดินตามเตียงที่มีร่างของคนรักหลับใหลอยู่ไปด้วยสติที่ล่องลอย

มาร์คนั่งพินิจใบหน้าของร่างบางยามหลับอย่างเพลิดเพลิน ที่ผ่านมาเขามัวทำอะไรอยู่ ทำไมถึงได้มองข้ามคนข้างกายง่ายดายเพียงนี้

"ขอโทษนะ รีบตื่นขึ้นมาด่าฉันนะ นายจะทุบจะตีฉันก็ได้ ขอโทษ" ชายหนุ่มฟุบหน้าลงน้ำตาหลั่งโดยไร้เสียงสะอื้น

.
.
.

"จินยอง ตื่นขึ้นมาเถอะนะ นี่มันก็หนึ่งอาทิตย์เเล้ว" มาร์คนั่งลงกุมมือขาวเนียนไว้ หมอบอกว่าถ้าจินยองหลับนานกว่านี้ก็อาจจะเป็นเรื่องของผลกระทบที่ได้รับตอนโดนรถชน

มาร์คไม่อยากให้มันเป็นเเบบนั้นเลย

"กลับมานะจินยอง กลับมาหาฉัน"

"ฉันขอโษ ฉันมันโง่เอง อย่าทิ้งกันไปได้ไหม"

"ฉันขอโอกาสอีกสักครั้ง เเค่ครั้งเดียว"

"ตื่นมาคุยกับฉันหน่อยสิที่รัก" ชายหนุ่มเอ่ยเรียกร่างบางเสียงเบาหวิว มือใหญ่กุมมือขาวไว้เเน่น ริมฝีปากบางเฉียบประทับที่หน้าผากคนป่วยเเผ่วเบา

"มาร์ค" น้ำเสียงเบาหวิวเอ่ยเรียกเขาทำเอาชายหนุ่มผละออกมาเเทบจะทันที

"จินยอง!" มาร์คผละออกมาสบตากับดวงตาสุกใสคู่เดิมที่เขาคิดถึงพลันความรู้สึกมากม่ยก็ไหลทะลักขึ้นมาจุกที่อก คิดจะเอ่ยคำพูดอะไรไม่ออก คำขอโทษ คำที่เตรียมไว้หายไปหมดในหัวของเขาว่างเปล่า

ร่างบางระบายยิ้ม ริมฝีปากเเห้งผากคลี่ยิ้มหวานที่ทำให้ใจของมาร์คกลับมาเต้นเเรงอีกครั้ง

"ยังรำคาญเราอยู่มั้ย"

"ไม่เเล้ว ไม่เเล้วล่ะ ขอโทษนะ ขอโทษ ฉันรักนาย"



---------------------------


Request by @Aki031041

ช่วงนี้ไม่ได้เเต่งฟิคนาน รู้สึกภาษาสนิมเกาะยังไงก็ไม่รู้ #shademj ติชมได้นะคะ

ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ :)


วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Crazy boy #2Jae




-C R A Z Y B O Y-




"ห้ะ! อะไรนะครับ" ร่างบางร้องเสียงหลงเมื่อได้ฟังคำกล่าวของผู้ที่เป็นเจ้านายเเละเป็นพี่ชายของตน

"วันนี้นายต้องไปคุยงานกับคุณอิมตอนบ่าย" พี่ชายเขาพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆเเต่กลับหนักอึ้งในสมองของเขา

"ทำไมต้องเป็นผม?"

"ก็เพราะฉันไม่ว่าง เเล้วอีกอย่างงานที่เเบ่งกันไว้ นายได้รับหน้าที่นี้ไม่ใช่หรือ" พี่ชายเขาเอ่ยพลางปิดเเฟ้มตรงหน้าเเล้วเปิดเเฟ้มอีกอันที่วางทับกันอยูา

"โถ่ พี่เเทคก็รู้ว่าผมไม่ถูกกับหมอนั่น" เจ้าของเสียงหวานยังคงตอเเยพี่ช่ยไม่เลิก

ให้ตายยังไงเขาก็ไม่มีวันไปคุยงานกับคนเเบบนั้นอีกเด็ดขาด!

"เเล้วยังไง นายเเยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานไม่ได้หรือ อย่างนี้จะเป็นผู้บริหารที่ดีได้อย่างไง" เเทคฮยอนพูดพลางหรี่สายตามองเขา ทำเอาชเวยองเเจขาชา

"ผมป่าวนะ ผมก็เเค่..เห้อ...ก็ได้ครับ"

สุดท้ายมวยยกนี้เขาก็เเพ้เเทคฮยอนอีกตามเคย หึ้ย!

"เดี๋ยวตอนบ่ายโมงจะมีรถมารับนายไปที่นัดเจอ อย่าเลทล่ะ"

วันเสาร์ที่เเสนสดใสของเขา

วันเสาร์ที่เขาควรจะนั่งจิบกาเเฟอ่านรายงานประจำวันชิวๆอยู่ในห้องพักที่เเสนสบาย

วันเสาร์ที่เขารักกำลังจะหายไปเพราะอิมเเจบอม!

ตอนนี้เวลาบ่ายโมงสี่สิบนาที เงาของคนที่นัดเขามาเจอยังไม่มีมาโผล่ให้เห็นในระยะสามร้อยเมตรเลย

ให้ตายเถอะ ยังคงเสียมารยาทไม่เคยเปลี่ยน!

คอยดูนะมาเมื่อไหร่พ่อจะด่าให้ไฟเเลบเลย!

"ฮายย"หลังจากที่นั่งเข่นเคี่ยวเคี้ยวฟันด่าทออีกคนอยู่ในใจสักพัก เสียงกวนประสาทของคนที่เขาจะด่าให้ไฟเเลบก็ดังขึ้นข้างหู

"โว้ยยย ออกไป!" ยองเเจใช้มือข้างขวาดันหน้าอีกคนออกห่างอย่างรังเกียจ ใบหน้าหวานเหยเกอย่างคนขยะเเขยง

"อย่าเอาหน้ามาใกล้อีกนะโว้ย เดี๋ยวโดนพ่อต่อยร่วง!"

"โอ้ยๆ กลัวจังเลย"

อิมเเจบอมกวนตีนมาก!

ร่างหนากอดตัวเองเเล้วทำท่าทีเหมือนเด็กสาวโดนรักเเก ร้องโอดโอยได้น่าหมั่นไส้ทีสุด!

"ไอ้!!!" ยองเเจกำหมัดขึ้นเหนือหัว สัญชาตญาณนักสู้ในกายพลุ่งพล่านอยากต่อยปากคนให้เเตกเเละไอคนที่ว่าก็ยืนเป็นเป้านิ่งให้เขาอยู่ตรงหน้านี่เเหละ!

"นี่ๆหนูต้ะ อย่าคิดทำอะไรเเบบนั้นเลยนะคะ เราจะคุยงานกันไม่ใช่หรอ อย่าลืมสิคะ"

"คะอะไร กู..ฉันเป็นผู้ชายนะ!" ร่างบางได้ยินเเบบนั้นจึงข่มใจไว้เเล้วเถียงอีกคนกลับเเทน เเต่พอจะให้สรรพนานหยาบคายก็โดนสายตาดุๆของคนอายุมากกว่าปรามไว้จนอดที่จะกลัวนิดหน่อยไม่ได้

กลัวเเค่นิดหน่อยเท่านั้นเเหละ!

"อ้าว ก็หน้าหวานเหมือนผู้หญิงเเบบนี้ พูดค่ะก็เหมาะดีออกนี่คะ" อิมเเจบอกตอบเขาด้วยใบหน้าน่าหมั่นไส้พร้อมด้วยเสียงที่ดัดจนเล็กเป็นเสียงสอง

"ต้ะเต๊อะอะไรอีก ฉัน ชเว ยองเเจ" ชายหนุ่มร่างบางชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเเล้วเอ่ยเสียงเเข็ง คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจ

"เเหม่ หนูต๊ะก็ ทำลืมไปได้ว่าหนูชอบให้พี่เรียกชื่อนี้ตอนเด็กๆ"

"หยุด! ห้ามเรียกว่าหนูต๊ะอีก!" ชเวยองเเจยกมือชี้หน้าคนพูดเเล้วร้องห้ามเสียงดัง ดวงตากลมโตส่งสายตาขุ่นเคืองให้อีกคนอย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน

เเต่สำหรับอิมเเจบอมดวงตาเเบบนั้นก็เหมือนสารท้ารบดีๆนี่เอง

"วันนี้พี่ชายอยากกินเนื้อย่างจังเลยค่ะ" ว่าพลางกวาดมือไว้ที่รอบเอวของคนเด็กกว่าเเล้วออกเเรงลากให้เดินไปด้วยกัน

"มาคุยงานให้เสร็จๆไปเเล้วนายจะไปไหนก็ไป" เด็กน้อยในอ้อมกอดเขายอมเดินตามเเต่ก็ไม่วายส่งสายตาขู่เเละน้ำเสียงเเข็งๆมาให้เขาอยู่ดี

"หนูต๊ะควรรู้ไว้นะคะว่าอีกหน่อยเราก็อาจจะได้ดองกัน ทำตาเเบบนี้ใส่สามีในอนาคตนี่ไม่ดีเลยนะคะ"

ไอ้อิมเเจบอม ไอ้ ไอ้ ไอ้!!!!

ชเวยองเเจอยากจะจับอีกคนทุ่มลงพื้นเเล้วกระทืบให้หายอายเสียจริง!

"ดองอะไรกัน ฉันไม่มีวันดองกับคนเเบบนายหรอก" เด็กหนุ่มไม่ยอมเเพ้ตอกกลับอีกคนทันควัน

ถ้าเเปลงร่างเป็นสัตว์ประหลาดได้ชเวยองเเจจะจับอิมเเจบอมยัดเข้าท้องเป็นคนเเรกเลย ให้ตายเถอะ!

"คนเเบบพี่? คนเเบบพี่ทำไมหรอคะ" คนสูงกว่าก้มหน้าลงมาใกล้ถามคำถามตาใส

"กะล่อน หลอกลวง หน้าม่อ เจ้าชู้ ไม่ได้เรื่อง!" ร่างบางพ่นคำบรรยายลักษณะนิสัยของอีกคนอย่างเห็นภาพเเละสื่ออารมณ์ในทุกตัวอักษร

"หนูต๊ะนี่รู้นิสัยพี่ดีจังเลยนะคะ เเอบชอบพี่หรือเปล่าเนี่ย"

เเต่คนหน้าด้านยังไงก็ยังเป็นคนหน้าด้านอย่างนั้น

อิมเเจบอมถามเขาตาพราวเป็นระยับ รอยยิ้มที่ยองเเจเกลียดประดับบนใบหน้าได้รูปจนทำให้เขาหมั่นไส้มากกว่าเดิม

หมั่นไส้ทั้งรอยยิ้มทั้งเจ้าของรอยยิ้มนั่นเเหละ

"ฉันไม่มีวันชอบคนเเบบนายหรอก เเล้วก็คงไม่มีใครเอาคนอย่างนายมาทำพันธุ์อีกเเล้วล่ะ" ยองเเจมองหน้าเเจบอมอย่างไม่กลัวเกรง ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำที่ตนคิดว่าเจ็บเเสบที่สุดออกมา

"...."

เเละก็ได้ผล

อิมเเจบอมนิ่ง หันหลัง เเล้วเดินไปโดยไม่กวนเขาอีก

////


นี่มันก็ออกจะมากไปหน่อย

หลังจากที่เขาตอกมุกเเสบๆคันๆให้อิมเเจบอมเกาเล่นเเล้ว หมอนั่นก็นิ่งเงียบมาตลอด

เงียบจนเขาสงสัย

เงียบจนเขาเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย

เงียบจนเขาเริ่มกลัวใจอีกคน

"หนูต๊ะคะ"

"หืม" ร่างบางสะดุ้งน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงเรียกของคนที่ปิดปากเงียบมาได้ตั้งนาน


"เมื่อกี้หนูต๊ะบอกว่าคนอย่างพี่จะไม่มีคนเอาหรอคะ" ความเงียบโรยตัวสักพักอิมเเจบอมก็หันหน้ามาถามเขาด้วยใบหน้านิ่งๆ

"ก็ใช่น่ะสิ"

"สะกดคำว่าเราให้พี่ฟังได้มั้ยคะ"

"โง่หรือไง" ยองเเจตอกกลับคำเจ็บเเสบให้เเจบอมอีกครั้ง หากครั้งนี้เเววตาของเเจบอมมีประกายมากกว่าเดิม เเต่ใบหน้ายังคงเรียบนิ่ง

"สะ กด ค่ะ" ร่างหนายื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาก่อนจะพูดเน้นทีละคำจนยองเเจขนอ่อนลุก

"รอ-เอา-เรา" ยองเเจขมวดคิ้งงุนงงเเต่ก็ยอมพูดออกมาในที่สุด

"ได้ค่ะ พี่จะรอ"

พูดพลางเผยยิ้มระรื่น ใบหน้ากวนส้นตีงของคนกวนส้นตีงก็กลับมา ยองเเจขมวดคิ้วงงหนักกว่าเดิม

รอ

เอา

เรา

ได้ค่ะ พี่จะรอ

รอ

เอา

เรา

ไอ้อิมเเจบอม ไอ้ ไอ้ ไอ้!!!!!!


--------------

 เราก็จะรอวันนั้นนะคะพิจบมม #shademj