วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559

NUTTY #MarkJin




-N U T T Y-




เป็นเเฟนมนุษย์จินยองมีดีอะไร





มนุษย์จินยองโคตรเอาเเต่ใจ



มนุษย์จินยองโคตรร้ายกาจ



มนุษย์จินยองโคตรงี่เง่า






"เราอยากกินชาบูอ่า"

"จินยองเป่ายิงฉุบเเพ้ จินยองต้องตามใจพี่สิ"

"จินยองอยากกินชาบูอ่า จะกินชาบู ชาบูววววว"

มาร์คมองเด็กเเก้มกลมที่ดีดดิ้นไปมากลางห้างสรรพสินค้าด้วยความเหนื่อยใจ


ปาร์ค จินยอง อายคนอื่นบ้างไหม?


ไม่หรอก จินยองไม่เคยสนใจคนรอบข้างอยู่เเล้ว


"ม้
าคเค้าอยากกินชาบู ชาบูอ่า" ท่าช้อนตามองมันไม่ได้ทำให้เขาใจอ่อนหรอกนะปาร์คจินยอง 



เเต่คางที่เกยบนไหล่กับมือซุกซนที่ลูบไปทั่วตัวนี่ก็ไม่เเน่


"
ม่จินยอง เราจะไปกินฟูจิกัน" มาร์คออกเเรงดึงข้อมือบางให้เดินตาม ไม่ได้อยากจะขัดใจสักเท่าไหร่เเต่การที่จินยองดื้อไม่เปลี่ยนเเบบนี้มันก็ต้องมีดัดนิสัยกันบ้าง

"จินยองอยากกินชาบู!" ร่างบางพูดเสียงดังราวกับเด็กที่ไม่ได้ดั่งใจก่อนจะออกเเรงต้านเเรงดึงของมาร์ค

"จินยองอย่าดื้อ!" มาร์คหันมาบอกด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะฉุนเเล้วเหมือนกัน

"ก็จินยองจะกินชาบู!" ร่างบางถลึงตาใส่เขาในเเบบที่เวลาปกติมาร์คจะมองว่ามันน่ารักเเต่ไม่ใช่ในเวลาเเบบนี้

"พี่จะกินฟูจิ อยากกินก็ไปกินคนเดียว!" ด้วยความโมโหที่ร่างบางเเสดงอาการเเบบนั้นใส่ตน ทำให้มาร์คพลั้งปากพูดออกไปเเบบไม่คิด

"ได้! จินยองจะไปกินคนเดียว ม้าคห้ามตาม!" พูดจบจินยองก็กระเเทกเท้าหันหลังเดินกลับไปทางเดิม

มาร์คเริ่มได้สติ

หัวใจสั่งการให้เดินตามร่างบอบบางของคนรักไป เเต่สมองมันกลับสั่งตรงกันข้ามด้วยความโกรธที่ยังคงหลงเหลืออยู่






เป็นเเฟนมนุษย์มาร์คมีดีอะไร





คำตอบคือไม่มี




ขี้โมโหเป็นที่หนึ่ง



ใจร้อนเป็นที่หนึ่ง
 


ขัดใจจินยองเก่งที่หนึ่ง


เห็นไหมไม่เห็นมีดีอะไรให้ต้องนั่งรอหน้าร้านอาหารเลยสักนิด

ร่างบางยืนกำโทรศัพท์ในมือเเน่น ความลังเลฉายชัดในเเก้วตาสีดำสนิท

เเละเเล้วปาร์ค จินยองก็ตัดสินใจได้ นิ้วเรียวเลื่อนไปกดปุ่มโทรออกเบอร์ที่จำได้ขึ้นใจ รอเสียงรอสายดังขึ้นสองเสียงเเล้วจึงกดวาง

หมุนตัวเดินเข้าร้านอาหารก่อนจะหาที่นั่งเเละเริ่มเปิดรายการอาหารตรงหน้า






10นาทีผ่านไป





มนุษย์มาร์คยังคงไม่หายโกรธเขา







20นาทีผ่านไป





อาหารที่สั่งเริ่มจะร่อยหรอเเต่จินยองก็ยังคงมีหวัง







30นาทีผ่านไป






เสียงประตูร้านที่เปิดออกพร้อมเจ้าของร่างสูงโปร่งที่คุ้นตาเดินเข้ามามันเกือบทำให้จินยองถลาตัวเข้าไปกอดเเล้วซุกหน้าลงบนอกเเกร่งที่เเสนคิดถึง


ไม่ได้เจอกันเเค่ครึ่งชั่วโมงทำไมรู้สึกเหมือนมาร์คหล่อขึ้น;-;


เเต่จินยองก็ทำได้เพียงเเค่คิดเพราะมาร์คเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามเขาเเล้ว


"จินยองสั่งเนื้อมาเผื่อม้าคด้วยนะ"




เห็นไหมว่ามนุษย์จินยองโคตรเอาเเต่ใจ

มนุษย์มาร์คก็เลยขัดใจไม่ได้ไง




Talk

#shademj

DROWSY #MarkJin




-D R O W S Y-









เเฟนเขาเป็นคนขี้เซา







"นี่ตื่น" เขาเขย่าตัวเเฟนหนุ่มไปมายามเข็มสั้นชี้ที่เลขเเปด



"อีกสิบนาทีน้า" ร่างบางหลบหนีสัมผัสของเขาก่อนจะถดตัวหนี



"ไม่ได้ ลุกขึ้น" เขายังคงพยายามในการปลุกคนรักต่อไปโดยไม่สนคำขอที่เหมือนละเมอพูดมากกว่า



"งื้อ มาร์คอย่า" ร่างบางร้องงุ้งงิ้งเมื่อเขาดึงเเขนขาวขึ้น



"ตื่นได้เเล้วจินยอง"


จินยองยอมนั่งเเล้ว



เเต่นั่งในเเบบที่หัวกลมพิงอยู่ที่ไหล่เขา สองเเขนโอบรอบตัวเขาไว้


อ่า



นี่ไม่ได้กำลังยั่วกันใช่ไหมจินยอง


"งื้อ ขอนอนอีกนิดน้า" เเต่ตอนนี้มันเลยเวลาทานอาหารเช้ามามากเเล้ว เเละท้องของมาร์คก็เริ่มประท้วง เขาต้องการที่จะหาอาหารใส่ท้องเดี๋ยวนี้

"ไม่ได้ ถ้าไม่ยอมลุกตอนนี้จะทำให้ลุกไม่ได้ทั้งวันเลยนะ" มาร์คพูดเสียงเจ้าเล่ห์ก่อนจะโน้มหน้าลงใกล้ใบหน้าหวานที่กำลังหลับตาพริ้ม



"จะนอนงึ" พูดจบจินยองก็ทิ้งตัวเองลงกับเตียงนุ่มอีกครั้ง



"จินยองเเน่ใจนะว่าจะไม่ตื่น"



"...." เงียบ เเถมจินยองยังขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเป็นวงกลมอีก



งั้นมาร์คก็ถือว่าจินยองตกลงเเล้วกันนะ






อื้อ


จินยองร้องประท้วงเมื่อมาร์คเริ่มใช้ 'วิธีปลุกฉบับมาร์คต้วน' กับเขา มือบางผลักคนที่นอนทับอยู่บนตัวให้ออกห่าง เเต่มีหรือที่คนเเบบมาร์คจะยอม




น้ำ
ขึ้นให้รีบตัก จินยองหลับให้รีบจูบ



"อ่อยอ้า" จินยองพยายามหาที่ว่างในปากเเล้วเปล่งเสียง เเต่ลิ้นร้อนที่ชอนไชไปทั่วกับริมฝีปากหยักที่ไม่ยอมเว้นที่ว่างให้เขาก็ทำให้ลำบากได้เหมือนกัน


"พี่ไม่อยากปล่อยจินยองเเล้ว" มาร์คปาดคราบน้ำลายที่ติดที่ปากคนรักออกก่อนจะพูดชิดใบหูขาว



"จินยองตื่นเเล้ว จะอาบน้ำ" 



"ไม่ให้ หมดเวลาต่อรองของคนขี้เซาเเล้ว รับผิดชอบพี่เดี๋ยวนี้เลย" มาร์คว่าก่อนจะล็อคมือของจินยองติดกับเตียงไว้ทั้งสองข้าง



"ไม่เอา! มาร์คลามก'' 



"ไม่อยากให้ลามกวันหลังก็ตื่นเร็วๆสิครับ"

"อื้อ!"



Talk

#shademj

DUTY #MarkJin





-D U T Y-






เเอ้ด

เสียงเปิดประตูเบาๆ ดังขึ้นเมื่อผู้มาใหม่ก้าวขาเข้าห้องนอนโดยความต้องการของเขาคือไม่ให้เจ้าของห้องรู้ตัว เเอบย่องไปที่เตียงเเล้วจัดการวางหมอนให้พอนอนสำหรับสองคนถึงเเม้เนื้อที่จะไม่ค่อยอำนวยก็ตามที


"มาร์คฮยอง!!!!!" เจ้าของห้องร้องเสียงตื่นตระหนกเมื่อเปิดประตูออกจากห้องน้ำเเล้วเจอเข้ากับผู้บุกรุกที่นั่งหน้าเเป้นเเล้นอยู่ที่เตียงของเขา

"เข้ามาทำอะไรครับ" จินยองถามพลางหยิบเสื่อเเละกางเกงนอนขึ้นมาใส่อย่างเร่งรีบ

"พี่มาปิดไฟ" มาร์คตอบเเล้วยิ้มขำกับท่าทางเก้ๆกังๆของเด็กน้อยที่กำลังหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาใส่

"พี่เข้ามาปิดไฟตอนผมกำลังอาบน้ำ?" จินยองยังคงถามคำถามต่อไปเพื่อลดอาการเขินชั่ววูบของตัวเองลง เมื่อจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองเสร็จก็เดินเข้าไปหาคนเเก่กว่าด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ


ใครๆก็รู้ว่าเขาชอบความเป็นส่วนตัวมากเเค่ไหน


"ก็นี่มันห้าทุ่มเเล้ว นายนั่นเเหละที่อ่านหนังสือไม่ดูเวลา เเล้วก็นอนดึก" มาร์คว่าพลางส่งสายตาดุให้อีกคนหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย

เอาเป็นว่าสงครามครั้งนี้ปาร์คจินยองยอมเเพ้

อันที่จริงเรียกว่ายอมเเพ้ก็ไม่ถูกหรอก ในเมื่อเขาไม่มีทางชนะมาร์คได้อยู่เเล้ว ทุกสงครามมีเเต่เขานั่นเเหละที่เป็นผู้เเพ้

"เอ่อ งั้นฮยองปิดไฟเถอะครับ ผมจะนอนเเล้ว" จินยองทิ้งตัวลงบนหมอนตัวเองก็ต้องรู้สึกเเปลกๆ

ทำไมเขาถึงนอนติดผนังละ

พอหันไปด้านข้างถึงได้เข้าใจ เพราะมีหมอนมาวางบนเตียงเขาเพิ่มอีกหนึ่งใบทำให้จินยองต้องเลื่อนที่นอนมานอนติดผนังซะอย่างนั้น

กำลังจะเอ่ยถามคนที่ลุกขึ้นไปปิดไฟเเต่พออ้าปากจากคำถาม ก็กลายเป็นเสียงร้องด้วยความตกใจอีกรอบ

"อ้ะ ฮยอง!"

มาร์คเอื้อมเเขนกอดรัดรางนุ่มนิ่มเอาไว้ในอ้อมกอดเมื่อเขาจัดการ 'ทำหน้าที่' ของตัวเองเสร็จเรียบร้อย


"อย่าเสียงดังสิเดี๋ยวมังเน่ตื่น" มาร์คดุพลางดึงอีกคนเข้ามาในอ้อมกอดให้เเน่นขึ้น กลิ่นสบู่อ่อนๆที่เขาชอบลอยมาเเตะจมูกจนมาร์คต้องกดมันลงไปบนกลุ่มผมนุ่มอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่

มาร์คคิดว่าคืนนี้คงเป็นอีกคืนที่เขานอนหลับฝันดี


"เเล้วฮยองไม่ไปนอนห้องมังเน่หรอครับ" จินยองถามเสียงเบาเพราะไม่อยากโดนพี่ใหญ่ดุ


"เข้าไปตอนนี้ก็ตื่นกันหมดพอดี นอนกับจินยองนี่เเหละ" มาร์คว่าเเล้วปิดตาของตัวเองลงเพื่อต้องการจะบอกอีกคนว่าเขาง่วงเต็มทีเเล้ว

"อ่า งั้นก็ได้ครับ"


เขาว่ากันว่าเมื่อเราทำหน้าที่ของเราสำเร็จ เราก็ต้องได้รับของรางวัล

มาร์คคิดว่าการที่เขามีหน้าที่มาปิดไฟในห้องจินยองทุกวันเขาก็ต้องได้รับรางวัลเหมือนกัน

อย่างเช่นเเก้มกลมกับปากอิ่มของจินยองเวลาหลับนี่ก็ไม่เลวนะ


Talk

#shademj

ONE CALL AWAY #MarkJin








-O N E C A L L A W A Y-





"โอ้ย!" เสียงเล็กร้องลั่นเมื่อถูกใครอีกคนผลักให้ล้มลงกับพื้นด้วยเเรงที่ทำให้ก้นน้อยๆของตัวเองต้องเจ็บช้ำ

"อีตุ๊ด!" เสียงห้าวดังขึ้นอย่างถือดี เด็กชายอีกคนก้าวเท้าเข้าใกล้คนที่ล้มก้นจ้ำเบ้าเเล้วยื่นมือของตนเองหมายจะจับเเก้มนุ่มนิ่มที่เขาชอบเเกล้งเป็นประจำ





หมับ!





"ทำอะไร" เสียงอีกเสียงดังขึ้น คนที่กำลังเอื้อมมือไปบีบเเก้มนุ่มชะงัก หันมองคนที่มาจับมือตนเองเเล้วร้องเรียกตาโต


"มะ...มาร์ค" เพียงเท่านั้น เด็กอีกสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเด็กชายตัวน้อยก็เดินถ่อยห่างออกไปสามก้าวทันที


"เเกล้งจินยองหรอ" มาร์คถามนักเลงที่ตัวเล็กกว่าเขาด้วยอารมณ์ขุ่นมัว




ถ้าเมื่อตะกี้เขามาไม่ทันเเก้มของจินยองที่เป็นของเขาก็จะถูกคนตรงหน้าเอาไป



เขาไม่ยอมหรอกนะ!



ถ้ามาเเกล้งจินยองงี่ของเขาน่ะ ถึงจะเป็นเด็กอายุหกขวบเขาก็ไม่สนหรอก 




"ปะ..เปล่านะ ผม...ผมไปก่อนนะ บายจินยอง" ก่อนจากลาก็หันมาพูดกับคนที่ตนพึ่งเเกล้งไปเมื่อสักครู่เเล้วเอ่ยลา ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปที่บ้าน




ใครจะกล้ายอมรับกันว่าเเกล้งจินยอง


ถ้าพูดเเบบนั้นมาร์คต้องตีเราเเน่ๆ




"เจ็บตรงไหนมั้ย" มาร์คหันมาถามเด็กชายจินยองด้วยสายตาเเละน้ำเสียงที่จินยองเคยบอกว่าเหมือนเเม่ของตนเอง



"ม้าคคคค เเงงงง" จินยองร้องไห้จ๋า ถลาตัวเข้ากอดพี่ชายข้างบ้านทันที



"เจ็บตรงไหนบอกพี่ซิ" มาร์คโอบกอดคนน้องด้วยความเอ็นดู จินยองชี้ที่ก้นของตัวเองเเล้วมองหน้ามาร์คด้วยดวงตาคลอไปด้วยหยาดน้ำตา



"เจ็บตรงนี้ ฮันบินเเกล้งเค้า ฮึกม้าค" พูดจบเด็กน้อยในอ้อมกอดก็กอดรอบคอเขาอีกครั้ง พร้อมกับซุกหน้าร้องไห้ที่ซอกคอเขาจนเปียกไปหมด มาร์คนั่งลูบหลังปลอบจินยองอยู่อย่างนั้น 




เเต่จนเเล้วจนรอดเขาก็ยังไม่เห็นวี่เเววว่าจินยองจะหยุดร้องไห้เลย มาร์คดึงหน้าคนตัวเล็กออกจากคอเขา เเล้วจูบซับน้ำตาตามใบหน้าเล็ก




"ฮึก" เสียงสะอื้นยังคงมีเเต่หากน้ำตาไม่ได้ไหลเเล้ว จินยองมองหน้ามาร์คก่อนที่เสียงเล็กจะเอ่ยเเจ้ว


"ม้าคจุ๊บนยองทำไม" มาร์คหัวเราะให้กับคำถามไร้เดียงสานั้นก่อนจะก้มลงสูดดมเเก้มขาวของคนเป็นน้องอีกฟอดใหญ่


"นยองน่ารักไงครับ" มาร์คพูดพลางพรมจูบไปทั่วใบหน้าเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว




เเก้มย้วยๆของจินยองนี่เป็นของเขา 




ปากเล็กนี่ก็ของเขา 




ดวงตากลมๆนี่ก็เป็นของเขา




"งื้อออออ ม้าคคคค จั๊กจี้น้า" จินยองยกมือน้อยๆของตัวเองดันหน้าอีกคนให้ถอยห่างเเล้วร้องโวยวายเสียงใส


"วันหลังถ้ามีคนเเกล้งอีก จินยองต้องเรียกพี่นะ รู้มั้ย" มาร์คหยุดการกลั่นเเกล้งคนตัวเล็กเเล้วเอ่ยเสียงเข้ม จินยองก้มหน้า ดวงตาคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเเล้วพยักหน้าขึ้นลงหลายๆครั้งให้คนพี่ชื่นใจ



จินยองน่ะ ตัวเล็กกว่าเด็กอายุหกปีทั่วไป มักจะถูกเพื่อนในหมู่บ้านเเกล้งบ่อยๆ อย่างครั้งนี้ ถ้าเขาไม่เดินผ่านเเล้วเห็น ตัวเล็กของเขาจะเป็นอย่างไรกัน






"ม้าคจะมาช่วยเราทุกครั้งใช่มั้ย"


"สัญญาเลยครับ"







I’m only one call away

ผมนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้น

I’ll be there to save the day

ผมจะไปอยู่ที่นั่นแล้วทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น

Superman got nothing on me

ซุปเปอร์แมนเองก็สู้ผมไม่ได้

I’m only one call away

ผมอยู่ใกล้แค่คุณเอื้อมเท่านั้น







---








คนหลอกลวง




คนผิดสัญญา

ปาร์ค จินยอง เก็บรูปถ่ายลงกล่องใบเก่าสีเเดงด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนัก ร่างบางหวนนึกไปถึงวันที่ถ่ายรูปเเละข้อความด้านหลังรูปนั้นเเล้วได้เเต่อารมณ์เสีย



'I always beside you'



ตอนเด็กเขาไม่เข้าใจความหมายของมันหรอก ผมก็เเค่เด็กอายุหกขวบกับพี่ชายใจดีข้างบ้านที่อยู่ม.3 เเต่คุณเเม่ก็อ่านให้เขาฟัง มันเเปลว่า ผมจะอยู่ข้างๆคุณเสมอ




ในช่วงเวลานั้นทุกวันในตอนเช้าเขามักจะไปกดกริ่งบ้านข้างๆด้วยจิตใจเเจ่มใส เเล้วไม่นานเสียงเปิดประตูพร้อมอ้อมกอดอบอุ่นจากลูกชายเจ้าของบ้านก็ทำให้เขาอารมณ์ดีได้ทั้งวัน เขาตัวติดกับมาร์คมากจนคุณเเม่เริ่มบ่น




มันเป็นอย่างนั้นจนกระทั่งจินยองขึ้นเรียนประถมศึกษาปีที่หนึ่ง จินยองชอบงอเเงกดกริ่งหน้าบ้านมาร์คก่อนไปโรงเรียนทุกครั้ง เวลากลับบ้านก็มักจะรีบกลับ เพื่อมาหามาร์ค ทำให้จินยองในตอนนั้นไม่ค่อยจะมีเพื่อนนักหรอก



เเต่เเล้ววันหนึ่งเขาก็ไม่ได้รับอ้อมกอดอบอุ่นนั้นอีก พร้อมด้วยถ้อยคำที่ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นช้าลงราวกับจะหยุดเต้น




'มาร์คไม่อยู่หรอก เขาไปต่างประเทศน่ะจินยอง'




จินยองไม่รู้หรอกว่าทำไมมาร์คถึงไม่บอกเขาสักคำว่าจะไป เขากลับมาที่บ้านเเล้วหมกตัวอยู่ในห้อง ข้าวปลาไม่ยอมกินจนคุณเเม่ต้องเข้ามาช่วยดูเเล


การจากไปโดยไม่บอกไม่กล่าวของพี่ชายที่เขารักเป็นดั่งรอยเเผลเป็น


จินยองเก็บทุกอย่างที่เกี่ยวกับมาร์คเข้าห้องเก็บของ ล็อคประตูเเน่นเเล้วสัญญากับตัวเองว่าจะไม่เปิดมันอีก




Rrrr




เสียงโทรศัพท์ดังเรียกความสนใจจากเจ้าของได้เป็นอย่างดี มือบางกดรับสายเพื่อนสนิทที่โทรมาอย่างไม่รีบร้อน



"วันนี้ว่างไหม เที่ยวกัน" หลังจากวันที่มาร์คหายตัวไป จินยองก็เริ่มคิดได้ว่าเขาไม่สามารถที่จะพึ่งมาร์คไปตลอดชีวิตได้หรอก



เด็กชายปาร์คในตอนนั้นเริ่มที่จะค้นหาสิ่งที่เป็นจุดเด่นของตนเองเเล้วนำมันมาใช้ เขามีเพื่อนมากมายในห้อง ไม่มีใครเเกล้งเขาอีกเพราะจินยองใช้เสน่ห์ของตนเองมัดใจทุกคนในห้องเรียนจนหมด จินยองเข้มเเข็งขึ้นมากเเล้ว



"ว่าง ที่เดิมป้ะ"



"เออ เเล้วเจอกันเพื่อน" เเจ็คสันตัดสายไปเเล้ว จินยองวางโทรศัพท์ไว้ที่พื้นดังเดิม เก็บของที่ตนลื้อออกมาจากห้องเก็บของเพราะไม่มีอะไรทำไว้อย่างเดิม



เขาตัดสินใจที่จะล็อคความทรงจำเกี่ยวกับคนใจร้ายไปเเล้ว จินยองจะไม่หวนกลับไปนึกถึงอีกเป็นอันขาด






เสียงเพลงดังกระหึ่มออกมาด้านนอก ปาร์คจินยองเดินเข้าไปภายในสถานบันเทิงยามราตรีที่เพื่อนสนิทของเขานัดไว้ด้วยความชำนาญ



เขาสนิทกับเเจ็คสันตั้งเเต่ขึ้น ป.1 นั่นเเหละ จนตอนนี้อายุ 18 กันไปทั้งคู่เเล้ว ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนเเปลง เรายังคงสนิทกันเหมือนเดิม เเจ็คสันเป็นเพื่อนที่รู้ทุกเรื่องของจินยอง



เเน่นอน เรื่องพี่ชายข้างบ้านด้วย



หลังจากที่จินยองเล่าเรื่องพี่ชายข้างบ้านให้เเจ็คสันฟังจนจบ หมอนั่นก็เอ่ยถามเขาด้วยคำถามที่จินยองอยากจะฟาดหน้าหมอนั่นไปสักที




'นายคงไม่ได้ชอบพี่ชายคนนั้นหรอกใช่ไหม'




"เเจ็ค'' ผมเอ่ยเรียกเพื่อนที่กำลังนั่งอยู่คนเดียว เเจ็คสันหันมามองผม ยืนขึ้นเเล้วอ้าเเขนออกกว้างพร้อมพูดเสียงดัง


"ปาร์ค จินยอง!"


เล่นใหญ่ตลอด ผมมองหน้ามันเอือมๆเเล้วเดินไปนั่งข้างมัน


"เห้ยๆ ลุกๆ"


"อ้าว" ผมร้องเหวอทันทีเมื่อเพื่อนสนิทยกเเขนผมขึ้นเเล้วผลักให้ผมไปนั่งตรงข้ามมันเเทน


"นี่ที่เเบมเเบม"


"อ่อ ไอสัส" ผมด่ามันไปหนึ่งคำเเล้วยอมนั่งตรงข้ามเเต่โดยดี เเบมเเบมที่มันพูดถึงคือเด็กอีกโรงเรียนที่มันเเชทเต๊าะน้องเขาอยู่ในเฟสบุคทุกวัน จนกระทั่งเเบมเเบมทนความหน้าด้านของเเจ็คสันไม่ไหวยอมตกลงปลงใจรับเป็นเเฟน เเล้วไอเพื่อนตัวดีก็คอยมาเล่าความน่ารักน่าชังของเเฟนตัวเองให้ผมฟัง




เห็นใจคนโสดบ้างดิวะ!




"เเล้วเเบมไปไหน" ผมกับน้องเขาค่อนข้างสนิทกันน่ะครับ เพราะผมเป็นเพื่อนสนิทเเจ็คสันนี่เนอะ


"ไปห้องน้ำ เออ รุ่นพี่กูมาด้วยนะลืมบอก"


"รุ่นพี่? คนอย่างมึงมีคนนับเป็นน้องด้วยหรอ"


"นับเป็นเเฟนยังมีเลยครับ พี่เขาไปเข้าห้องน้ำ"


"ไปกับเเบมด้วย โอ่ววว" ผมทำหน้ากวนทรีนใส่เพื่อนรักไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัว


"หยุดเลยไอสัส พี่เขาไม่คิดไรกับเเฟนกูหรอก" เจ็คสันชี้หน้าผมเเล้วพูดดักราวกับรู้ว่าผมกำลังจะพูดอะไรต่อ


"มึงเเน่ใจได้ไงเเฟนมึงออกจะน่ารัก" ผมพูดยั่วคนมีเฟนเเล้วด้วยความสะใจ เห็นใบหน้าเครียดๆของมันเเล้วก็ไม่อยากจะเสี้ยมสักเท่าไหร่ เเต่ทำไงได้ครับ ความหมั่นไส้ที่มีเยอะกว่า


"ก็พี่เขามีคนที่ชอบเเล้ว" เเจ็คสันพูดจบก็ยกสายตามาสบตากับผมราวกับกำลังบอกเป็นนัยอะไรบางอย่าง


"โกหกเปล่า" ผมไม่ได้สนใจสายตาของมันยังคงพูดล้อต่อไป เเต่เเล้วหางตาก็ก็เหลือบไปเห็นสิ่งมีชีวิตที่คุ้นหน้า


"ใครโกหกหรอครับ" เสียงทุ้มที่ยังคงอบอุ่นถึงจะเเตกเเละไม่มีเค้าเสียงเหมือนเมื่อหลายปีก่อน




ฝ่ามืออบอุ่นถูกวางบนหัวของเขาพร้อมกับการถามไถ่ที่จินยองไม่ได้เตรียมคำตอบไว้ล่วงหน้า






"ไงตัวเล็ก คิดถึงพี่ไหม"








No matter where you go

ไม่ว่าที่ไหนที่เธอไป

You know you’re not alone

คุณรู้ไว้ ว่าคุณจะไม่โดดเดี่ยว








---








"..."

จินยองนั่งอึ้ง สมองว่างเปล่าเสียจนเด็กหนุ่มต้องสะบัดหัวด้วยความมึนงง


"มาร์ค.." เด็กหนุ่มหันมองคนที่นั่งข้างกายเขาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ



คนที่เขาเก็บอยู่ในความทรงจำส่วนลึกที่สุดพร้อมกับปิดล็อคมันเอาไว้



ตอนนี้มานั่งข้างเขาเเล้ว



"พี่เอง คิดถึงกันบ้างไหมเนี่ย"



จินยองไม่ตอบคำถาม เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนเเล้วรีบจ้ำอ้าวออกไปจากที่ตรงนี้ เขาต้องการที่สงบเพื่อตั้งสติตนเอง



จินยองเดินมาจนถึงบริเวณลานจอดรถของผับเเล้วนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น




คิดถึงไหมหรอ




คิดถึงสิ มากๆเลย




เเต่เขาก็โกรธอีกฝ่ายจับใจ




คิดจะไปก็ไป คิดจะมาก็มา



คนอะไรเห็นเเก่ตัวที่สุด เขาไม่มีวันให้อภัยคนเเบบนั้นหรอก




"นี่เธอ" เสียงเรียกพร้อมเเรงสะกิดทำให้เด็กหนุ่มหันไปมองด้วยความไม่สบอารมณ์นัก เขาต้องการที่สงบๆ ผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไร


"ช่วยหน่อยสิ" เธอคนนั้นนั่งลงตรงหน้าเขาพร้อมกับประกบปากเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว




ไม่มีการลุกล้ำเเต่อย่างใด เเค่ปากชนปาก จินยองหน้าร้อนเห่อด้วยความเขินอาย เขาเคยโดนผู้หญิงรุกก่อนก็เยอะ ถ้ารุกในเเบบที่ร้อนเเรงกว่านี้เขาจะไม่เขินเลย เเต่นี่เธอเเค่เอาปากชนปากกับเขาเเล้วนิ่งค้างไว้อย่างนั้น




"เอ่อ..." จินยองขยับปากของตนเองที่ชนกับอีกฝ่ายพยายามขอคำอธิบายการกระทำที่ไม่มีเหตุผลของหล่อน



"ไอหน้าจืด!" เสียงโหวกเหวกโวยวายดังตามมาพร้อมกับร่างบางของหญิงสาวถูกกระชากออกจากตัวเขา


"มึงกล้าดียังไงมาจูบเมียกู!!" เเรงผลักที่ถูกส่งมาพร้อมหมัดหนักๆที่มุมปากทำเอาจินยองล้มไม่เป็นท่า


เขายังไม่ทันตั้งตัวอะไรเลยนะเว้ย!!



สายเลือดลูกผู้ชายในตัวจินยองพลุ่งพล่าน ลุกขึ้นเดินเข้าไปถีบที่ท้องไอคนหน้าโจรให้ล้มลงก่อนจะเดินเข้าไปเเล้วคร่อมอีกฝ่ายไว้ ออกเเรงต่อยเข้าที่ใบหน้าของอีกคนด้วยเเรงทั้งหมดที่มี




ผวัะ



"ตั้งสติหน่อยไอควาย"



"เห้ย! จับมัน" ผู้ชายอีกสองคนเดินเข้ามาล็อคเเขนของจินยองเเล้วหิ้วปีกไปบริเวณลานจอดรถที่ไร้ผู้คน จินยองพยายามดิ้นหนีทั้งถีบทั้งเตะ เเต่ไอพวกนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยเขาเสียที


"ปล่อยกู!"


"ปล่อยหรอ เมื่อกี้ทำไรเมียกูไว้ ห้ะ" คนที่จินยองพึ่งฝากรอยเเผลไว้ที่ใบหน้าเอ่ยถามเสียงเข้ม


"ปล่อย--"



ผวัะ


หมัดหนักๆถูกส่งมาที่ท้องของเขาหนึ่งหมัดก่อนจะถูกทิ้งลงอย่างไร้เยื่อใย จินยองนอนกุมท้องตัวเองตัวงอ



"พี่ น่ารักเเบบนี้จะกระทืบลงหรอ"




ผู้ชายอีกคนถามด้วยน้ำเสียงหื่นกระหาย จินยองรู้ได้ทันทีว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับตนถ้าหมอนั่นไม่ต่อยเขาเเล้ว



"มึงซิงปะวะ" ลูกพี่พวกมันเดินมาคร่อมเขาไว้ บิดใบหน้าของเขาให้มองหน้ามันก่อนจะเอ่ยถามคำถามหยาบคาย



ไอพวกเหี้ย!



ถุย



จินยองถุยน้ำลายใส่หน้าอีกคนด้วยเเรงที่มี



"กูให้พวกมึงจัดการไอเด็กเหี้ยนี่กันเอง จะปู้ยี่ปู้ยำเเล้วไปถ่วงน้ำก็เรื่องของพวกมึง" พูดจบไอหน้าโจรก็ลุกขึ้นยืนเเล้วเดินออกไปจากตรงนี้พร้อมกับผิวปากสบายใจ



 จินยองพยายามลุกขึ้นยืนเเต่พอลุกได้หมัดอีกหมัดก็ถูกส่งมาซ้ำที่เดิม จินยองจุกจนไม่สามารถลุกได้อีก



"สามพีหน่อยมั้ย"


"มึงไปกันเถอะ"


"อะไร ถ้ามึงป๊อดกูทำคนเดียวก็ได้นะ ของสวยๆงามๆใครไม่อยากได้"


"เรื่องของมึงเเล้วกัน กูไปละ"


เพื่อนอีกคนของมันเดินกลับไปทางเดิม เเต่อีกคนกลับผลิกตัวของจินยองเข้าเผชิญหน้ากับมันเเล้วขึ้นคร่อมทันที



ปากอิ่มถูกบดเบียดด้วยความหยาบโลน



จินยองกัดปากอีกคนอย่างไม่ยอมเเพ้ กลิ่นคาวเลือดคลุ้งในปาก พยายามผลัก ทุบ ต่อย เเต่ก็ไม่ได้ผมเพราะเรี่ยวเเรงที่มีลดหายลงไปมากจากการถูกชกที่ท้องถึงสองครั้ง



"ชอบเเบบซาดิสก็ไม่บอก" มันพูดพลางก้มหน้าลงมาซุกไซร้ที่ซอกคอของจินยองอย่างจาบจ้วง เด็กหนุ่มน้ำตาไหลด้วยความหวาดกลัว



"ปล่อยกูนะ ช่วยด้วย" จินยองร้องขอความช่วยเหลือเสียงดังลั่น เด็กหนุ่มหวังเพียงเเค่ให้มีคนได้ยินเเละช่วยเขาได้ทัน


"ช่วยด้ว---"



ผวัะ



เเรงต่อยเข้าที่ท้องครั้งนี้หนักกว่าสองครั้งเเรกมาก จินยองนอนกุมท้องด้วยความจุกจนพูดไม่ออก ร่างบางนอนนิ่งยอมรับชะตากรรมตนเอง ตอนนี้เรี่ยวเเรงที่จะใช้หายใจยังเเทบไม่มี



"อย่าเสียงดังได้มั้ยที่รัก เรากำลังจะไปสวรรค์กันนะ"







ผวัะ




"สวรรค์กับเเม่มึงสิ" คนบนร่างจินยองถูกเรียวขาของผู้มาใหม่ถีบจนกลิ้งไปอยู่ที่พื้น จินยองร้องไห้ด้วยความยินดี ในที่สุดก็มีคนเห็นเขา ร่างบางร้องไห้หนักกว่าเก่าเมื่อเห็นใบหน้าของผู้ช่วยชีวิต


"มึงไม่ตายดีเเน่ไอเหี้ย" มาร์คสบถอย่างหัวเสีย หันหลังเดินไปหาอีกคนที่ลุกขึ้นยืนเตรียมพร้อมไว้เเล้ว มาร์คจัดการถีบเข้าที่ท้องอีกคนเเล้วตามลงไปคร่อม



เสียงเนื้อชนเนื้อดังระงม จินยองพยายามเปล่งเสียงห้ามมาร์ค เเต่เสียงที่เปล่งออกมาได้มีเพียงเเค่ลม



มาร์คชกคนที่บังอาจมาเเกล้งตัวเล็กของเขาจนมันสลบ ปล่อยทิ้งร่างนั้นไว้ก่อนจะเดินเข้ามาหาอีกคนที่นอนนิ่งอยู่ที่เดิม



พอเห็นสภาพจินยองเเล้วเขาก็อยากจะหันกลับไปกระทืบมันอีกครั้งด่วยความโกรธเเค้น



มึงกล้าดียังไงมาสร้างรอยบนคอขาวนี้



โถ่ไอเหี้ยเอ้ย!



กูดูเเลของกูมาสิบกว่าปี



มาร์คฉุนจัดจะกลับไปเอาเรื่องคนที่กำลังสลบอยู่อีกครั้ง เเต่เเรงที่ดึงมือเขาไว้ ทำให้มาร์คชะงัก


"เป็นยังไงบ้างจินยอง"


"ม้าค ฮึก"



มาร์คดึงอีกคนเข้าสู่อ้อมเเขนของตนเอง ลืมความขุ่นมัวในจิตใจไปจนหมด เพียงเเค่เห็นน้ำตาของร่สงบางในอ้อมเเขน เขาลูบหลังปลอบโยนให้เหมือนทุกครั้งที่จินยองโดนเเกล้งกลับมาฟ้องเขา ร่างบางกอดอีกคนเเน่นด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งหวาดกลัว ทั้งคิดถึง ทั้งโหยหา




อ้อมกอดนี้ที่เขาไม่ได้รับมันมากว่าสิบสองปี





"ไม่เป็นอะไรเเล้วนะ พี่อยู่ตรงนี้เเล้ว"





น้ำเสียงนี้ที่เขาเฝ้าคิดถึงมันมานานเเสนนาน





ริมฝีปากที่คอยปลอบประโลมยามเขาหลั่งน้ำตา จินยองหลับตาพริ้มรับสัมผัสของคนเป็นพี่ในเเบบที่ชอบทำตอนเขาเป็นเด็ก







"ม้าคกลับมาหานยองเเล้วใช่ไหม" 


"พี่ไม่เคยไปไหนอยู่เเล้ว"





Darling, and when you feel like hope is gone

ที่รัก และเมื่อคุณรู้สึกคล้ายกับหมดหวัง

Just run into my arms

แค่เข้ามาสู่อ้อมแขนของผม






Talk

#shademj

CARE #MarkJin






-C A R E-







คุณเคยมีเเฟนไหมครับ


เเฟนที่ไม่ค่อยใส่ใจคุณเเต่คุณก็ยังรักเขา


เเฟนที่ไม่ค่อยตามใจคุณเเต่คุณก็ยังร้องขอ


เเฟนที่ไม่ค่อยสนใจคุณเเต่คุณก็ยังให้ความสำคัญ


เเฟนเเบบนั้นมีเเต่ มาร์ค ต้วน เท่านั้นเเหละที่เป็นได้


"มาร์ค หยุดมาสามวันเเล้วนะ จินยองอยากออกไปเล่นน้ำบ้าง" ร่างบางทิ้งตัวลงบนตักกว้างของ 'มาร์ค' ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานหู เเก้มกลมถูขึ้นลงที่อกของคนรักออดอ้อนให้อีกคนยอมทำตามคำขอ


ก็หยุดสงกรานต์มาตั้งสามวันเเล้ว เเฟนของเขายังไม่ยอมออกจากห้องเสียที เอาเเต่หมกตัวอยู่ในห้อง เเถมยังสั่งให้เขาอยู่เป็นเพื่อนอีก

เเบบนี้จะไม่ให้จินยองเบื่อได้ยังไงกัน เข้าเฟสบุคเห็นเพื่อนๆลงรูปเล่นน้ำเเล้วมันอยากเล่นด้วยนี่!


"ไม่เอา นั่งดีๆได้ไหม" มาร์คดุคนตัวเล็กให้หยุดถูหน้ากับอกของตนพร้อมกับจับท่านั่งให้เสียใหม่


ก็ท่านั่งเเบบเมื่อกี้มันล่อเเหลมเกินไป มีอย่างที่ไหนมานั่งคร่อมเขาเเล้วเอาหน้ามาถูอกเล่น

เห็นเขาเป็นพระหรือไง


"ก็จินยองเบื่อจะเเย่ อยากออกไปเล่นน้ำกับยองเเจ" มาร์คก้มมองเเมวน้อยในอกเเล้ววาดเเขนล้อมร่างบางไว้ก่อนจะฝังจมูกลงบนเเก้มนุ่มฟอดใหญ่

"จินยองเบื่อหรอ งั้นเรามาหาอะไรทำกันดีกว่า"

ร่างบางหันกลับมาทำตาวาวใส่เเฟนหนุ่มทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น


ขอเเค่ไม่เป็น 'มาทำ' ในเชิง18+ จินยองพร้อมจะทำทุกอย่างกับมาร์คนั่นเเหละ


ลืมบอกไปอีกอย่าง

เเฟนเขาน่ะ หื่นขนาดที่จินยองยังเอือมระอา ตอนจับท่าให้เขานั่งใหม่เมื่อตะกี้ยังเเอบลูบก้นเขาอยู่เลย


"ทำอะไรหรอ"

"จินยองอยากเล่นน้ำใช่ป่ะ งั้นเล่นน้ำกัน"

"จริงอะ เล่นที่ไหน ในห้องหรอ?"

"ใช่"

"หงึ ไม่เอาอะ เดี๋ยวต้องถูห้องอีก"

"เล่นในห้องน้ำเป็นไง ไม่ต้องถูห้องด้วย"

"อื้ม ได้นะ" หลังจากที่ตัดสินใจได้ จินยองก็วิ่งดุ๊กดิ๊กไปหยิบปืนฉีดน้ำที่ตนซื้อมาไว้เตรียมพร้อมสำหรับเเผนเที่ยววันสงกรานต์ในหัวที่พังลงเพราะเเฟนอย่างมาร์คไม่ยอมออกจากห้อง

ร่างสองร่างถูกย้ายมาที่ห้องน้ำ ร่างบางจัดการเปิดฝากระบอกฉีดน้ำเเล้วเติมน้ำจนเต็มทั้งสองกระบอกก่อนจะยื่นปืนฉีดน้ำลายมายเมโลดี้ให้มาร์ค

"ทำไมของพี่เป็นมายเมโลดี้เเล้วของนยองเป็นเเบทเเมนอะ" มาร์คเลิกคิ้วถามคนน้องด้วยความเเปลกใจนิดๆ


หน้าเขาดูฟรุ้งฟริ้งขนาดนั้นเลยหรอ


"ก็จินยองไม่ชอบมายเมโลดี้"

"เอ้า! เเล้วซื้อลายนี้มาทำไมอะ"

"ก็ตอนไปซื้อพาเเจ็คสันไปด้วย มันหยิบอันนี้เเล้วก็ไปจ่ายตังให้เฉยเลยอะ"

"เดี๋ยวนะ ไหนบอกไปซื้อปืนฉีดน้ำคนเดียวไง"

"คือ..เอ่อ..ก็ไปคนเดียว เเต่บังเอิญเจอกันในห้าง" ร่างบางตอบเสียงงุ้งงิ้งคางชิดอก ซึ่งอาการเหล่านั้นก็ทำให้มาร์ครู้ได้ในทันทีว่าจินยองโกหกตน


ใครจะยอมรับกันเล่าว่าไปกับเเจ็คสันเพราะขี้เกียจนั่งรถไปเอง มาร์คยิ่งไม่ค่อยชอบเเจ็คสันอยู่ หงึ._.


"ไม่เล่นเเล้ว" มาร์คว่าจบก็วางปืนฉีดน้ำที่ขอบอ่างล้างหน้าเสียงดังเเล้วเปิดประตูเดินออกไป


งื้อ มาร์คโกรธจินยอง


ก็โกรธไปสิ จินยองไม่ง้อหรอก








/////









"มาร์คอยากกินไก่ทอด"

"...."

"มาร์คจินยองหิวจัง"

"..."

"มาร์คคคค จินยองอยากออกไปข้างนอก"

"ก็ไปสิ"

"ดะ..ได้หรอ" คำตอบที่ไม่คาดคิดว่าจะได้รับถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากรูปกระจับของคนรักทำเอาจินยองเสียวสันหลังวาบ

"ก็ไปสิ อยากไปเที่ยวก็ไปสิ ชวนเเจ็คสันไปด้วยก็ได้นะ มาร์คไม่ถือ"


มาร์คไม่ถือเเต่มาร์คโกรธ!!


ว่าเเล้วว่ามันเเปลกๆ นี่มาร์คจะหวงอะไรเขาขนาดนั้นกันก็ไม่รู้ เเจ็คสันก็เเค่เพื่อนสนิทสู้เเฟนอย่างมาร์คไม่ได้หรอก บอกไปกี่ครั้งก็ไม่เชื่อ


เดี๋ยวปั๊ดเลิกเลยนิ


"มาร์ค จินยองบอกกี่ครั้งเเล้วว่ากับเเจ็คสันก็เป็นเพื่อนกัน"

"มาร์คก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่" มาร์คว่าพลางเปิดนิตยสารในมือไปมาไม่หันมาสนใจเขาเลยสักนิด

"มาร์คอย่ามาทำเเบบนี้นะ จินยองไม่ชอบ" จินยองกอดอกดึงนิตยสารในมือคนรักออกเเล้วหน้าบึ้ง

"เเสดงว่าชอบโกหกกันมากกว่า"

"จะ..จินยองไม่ได้โกหก ก็ถ้าบอกไปมาร์คจะโมโห จินยองก็เลยไม่บอกดีกว่า"

"อ๋อ งั้นถ้ามาร์คไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นบ้างเเล้วไม่บอกจินยองเพราะกลัวจินยองเสียใจ มาร์คก็ไม่ผิดใช่ปะ"

"ทำไมพูดเเบบนี้อะมาร์ค จะทำจริงหรอ" จินยองถามด้วยเสียงที่บังคับไม่ให้สั่น เวลาทะเลาะกันเรื่องนี้ทีไรมาร์คชอบพูดเเบบนี้ทุกทีเลย

"ก็ไม่เเน่หรอก"

"มาร์ค!!" ร่างบางถลึงตาใส่คนรักอย่างเอาเรื่อง คำตอบที่เขาต้องการไม่ใช่คำตอบนี้เสียหน่อย

"ทำไม เรียกทำไมครับคุณเเฟน" น้ำเสียงยียวนกับหน้าตาน่าถีบถูกงัดออกมาใช้เพื่อกวน 'คุณเเฟน' ที่ตอนนี้กำลังถลึงตาทำหน้าตาน่าฟัดอยู่ตรงหน้าเขา

"ถ้ามาร์คมีคนอื่นเราเลิกกัน" คำขู่เเบบนี้ใช้กับเขามากี่ครั้งเเล้วจินยอง

"เลิกก็เลิกดิ"

"มาร์ค!"

"เรียกทำไมเรียกอยู่ได้" พูดจบร่างสูงก็เดินเข้าห้องนอนเเล้วปิดประตูเสียงดังทำเอาใจของร่างบางสั่นไหว




นี่ก็ไม่ใช่ครั้งเเรกที่มาร์คพูดเเบบนี้

เเต่ก็ไม่เคยชินเลยสักครั้งที่มาร์คพูดเเบบนี้




ร่างบางนั่งหน้านิ่วอยู่ที่โซฟาตัวเดิม เจ้าของดวงตากลมโตจดจ้องที่ประตูห้องนอนของคนรักอย่างชั่งใจ


เขาควรจะไปง้อมาร์คไหม เเต่เขาว่าตัวเองไม่ผิด


ไหนใครคิดว่าจินยองผิดบ้างครับ


ไม่มี!


เห็นไหม จินยองไม่ผิด!


ในเมื่อจินยองไม่ผิดก็ไม่ควรไปง้อมาร์คใช่ไหมครับ


เเต่ขาเจ้ากรรมดันเดินไปทางห้องนอนของมาร์คเเล้วนี่สิ


ผมควรทำยังไงให้ขาสองข้างนี้หยุดเดินกันนะ


เเอ้ด


ไม่ทันเเล้ว มือของผมหมุนลูกบิดประตูห้องมาร์คเเล้ว

"เข้ามาทำไม" เจ้าของเสียงทุ้มนอนเอกขเนกอยู่ที่เตียงกว้าง มือข้างหนึ่งถือบุหรี่ ที่โต๊ะหัวเตียงมีมวนบุหรี่กว่าห้ามวนที่ถูกเขี่ยทิ้งเอาไว้

ร่างบางเดินตรงไปที่เตียงกว้างพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนข้างคนที่ถือบุหรี่ไว้ในมือ หัวกลมวางอยู่บนอกของคนรักอย่างออดอ้อน

"ไม่ได้มาง้อนะ นี่มาดูว่าตายรึยัง" นิ้วเรียวเขี่ยเล่นบริเวณหน้าอกของคนที่นอนต่างหมอนของเขาอยู่

"หึ ยังไม่ตายเเล้วก็ยังไม่หายโกรธด้วย"

"ก็ไม่คิดจะง้อหรอก" จินยองว่าพลางหยุดนิ้วที่กำลังเขี่ยอกคนรักอยู่เเล้วเลื่อนไปลูบบริเวณหน้าท้องเเทน

"ก็ไม่ต้องง้อสิ ออกไปเลย"

"กล้าไล่เค้าหรอ" จินยองเงยหน้าขึ้นสบตาคนรักอย่างเอาเรื่อง

"ไม่ได้ไล่ กำลังเชิญให้ออกไปอยู่"


จุ๊บ


"ห้ามพูดอีก นอนไปนิ่งๆเลย"


"จินยอง" มาร์คเรียกชื่ออีกคนด้วยความตกใจ ที่อยู่ๆร่างบางก็เปลี่ยนท่ามาคร่อมเขาเอาไว้


"เเล้วก็ห้ามมีคนอื่นด้วย"


 ก็ถ้าเเฟนจะง้อด้วยวิธีน่ารักเเบบนี้ไม่ให้หวงได้ยังไงถูกไหมครับ -มาร์คต้วนไม่ได้กล่าวเพราะนอนนิ่งตามคำสั่งของคุณเเฟนอยู่



Talk


#shademj

MY MARK #JinMark






-M Y M A R K-







เป็นเเฟนมาร์คต้องอดทน สิบล้อชนต้องไม่ตาย!

เเต่ตอนนี้ผมกำลังจะตาย เพราะเขากำลังจูบดูดดื่มอยู่กับผู้หญิงร่างเอ็กซ์ตรงหน้าผม


ใจเย็นไว้จินยอง ที่นี่คนเยอะไปว่าไหม?


ไนท์คลับเเห่งนี้ก็เป็นอีกที่ที่ผมจะสามารถหาเพลย์บอยตัวพ่ออย่างมาร์คได้ หลังจากที่เขาบอกผมว่า 'ง่วงเเล้ว นอนก่อนนะ' ผ่านเเอพพลิเคชั่นสีเขียว ผมก็ตอบกลับไปว่า 'ฝันดีนะ' เราส่งข้อความหากันอีกนิดก่อนที่ผมจะวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะ เเละนั่งวาดเเบบเเปลนที่ต้องส่งอาจารย์ในอาทิตย์หน้าต่ออย่างขมักเขม้น


ตึ้ง!


เสียงข้อความมากมายหลั่งไหลผ่านวัตถุสี่เหลี่ยมที่ผมพึ่งละมือออกมาทำให้หัวคิ้วของผมชนกัน


ใครรัวไลน์มา?


เมื่อผมเปิดเข้าไปก็กระจ่างทันทีเมื่อคนที่ทักมาไม่ใช่ใคร เเต่เป็นเเจ็คสันเพื่อนสนิท

'ไอจินยอง'

'มึงอยู่ไหน'

'เมียมึงคั่วผู้หญิงอยู่โต๊ะข้างกู ตามเก็บด่วน คนนี้กูเล็งมานานละสัด'

พร้อมรูปร่างบางที่เเสนคุ้นเคยของผมกำลังลูบไล้ไปตามทรวดทรงองค์เอวของผู้หญิงคนนั้นอย่างเพลิดเพลิน


"เหี้ย" ผมสบถออกมาอย่างหัวเสีย ไม่คิดว่ามาร์คจะโกหกผมเเบบนี้ ผมลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เเล้ววิ่งออกไปสตาทรถที่อยู่ชั้นล่างทันที


อย่าให้เจอนะจะทำให้เดินไม่ได้สักสามวันมาร์คต้วน!


ก็รู้ครับว่าเเฟนผมเป็นเพลย์บอยมาก่อนที่เราจะเจอกัน เเต่คนที่ทำให้เขาหยุดได้ก็คือผมไม่ใช่หรือ ไม่งั้นเราคงไม่คบกันมายาวนานถึง 10 เดือนเเบบนี่หรอก มาร์คต้วนที่เปลี่ยนคู่ควงไม่เลือกหน้าคบกับผมได้ยาวนานขนาดนั้นก็เป็นหลักฐานยืนยันได้เเล้วว่าเขาจริงจัง


เเ
ล้วนี่มันคืออะไร



ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งเเรกที่มีเหตุการณ์เเบบนี้ เเต่การที่ผมจับได้คาหนังคาเขาเเบบนี้ก็เเทบไม่เคยเกิดขึ้นเลย เพราะผมเข้าใจว่าเขาก็เป็นผู้ชาย ความอยาก มันไม่เข้าใครออกใคร เเต่ผมก็เเค่ตั้งกฎกับเขานิดหน่อยว่า ถ้ามี ก็อย่าให้ผมจับได้ ไม่อย่างนั้นมาตรการขั้นเด็ดขาดจะถูกนำมาใช้ ซึ่งมันก็เป็นเเบบนั้นมาตลอด มาร์คไม่เคยทำให้ผมจับได้เลยสักครั้ง เเต่ดูท่าครั้งนี้เขาจะ พลาด อย่างใหญ่หลวงเเล้วละ
ผมเดินเข้าไปหาเเจ็คสันก่อนจะนั่งลงเมื่อเพื่อนตัวดีตบที่นั่งข้างตัว

"เอ้าชนโว้ย วันนี้ไอเสือมาเเจมด้วย งานนี้มีหนุก!" เเจ็คสันยกเเก้วสีอำพันขึ้นชนกับคนในวงสี่ห้าคนเเล้วพวกเขาก็โห่ร้องลั่น ทำให้ผู้คนรอบข้างเริ่มให้ความสนใจพวกเรา


รอบข้างที่ว่าก็รวมไปถึงร่างบางที่มีสีหน้าซีดเผือดทันทีเมื่อเงยหน้าจากลำคอของผู้หญิงข้างกายเเล้วมาสบตากับผม


ผมมองไปที่เขา เเต่เขากลับทำเหมือนไม่รู้จักผม ก่อนจะกลับไปหยอกล้อกับร่างกายขาวนวลนั้นต่อ


ได้เลยมาร์ค ถ้าจะเล่นเเบบนี้


ผมกระดกเเอลกอฮอร์เข้าปากเเล้วคว้าตัวผู้ชายตัวขาวข้างหวังเเจ็คสันมากอด ก่อนจะก้มลงไปจูบปากเล็กนั้น สายตาก็มองร่างบางที่มองผมอยู่เหมือนกัน

"อ่า.." เสียงครางหวิวดังมาจากปากคนที่นั่งบนตักผม


ผมปรนเปรอเขาด้วยฝ่ามือ สายตาจับจ้องไปยังใครอีกคน


ผมจับผู้ชายร่างเล็กให้นั่งหันหลังให้ผม เเยกเรียวขาออกจากกันก่อนจะลูบไล้ต้นขาขาว สายตายังคงจับจ้องไปที่มาร์ค

"อื้อ.." ผมใช้นิ้วมือสะกิดยอดอกที่ตั้งขึ้นมาเหนือเนื้อผ้า สายตาจดจ้องที่ร่างบางของมาร์คที่เริ่มนั่งไม่ติด

ผมใช้ฟันขบกัดใบหูเล็ก คนในอ้อมกอดเผยอปากออกเเละบดเบียดตัวเองเข้ากับ ส่วนนั้น ของผมมากขึ้น ผมกำลังจะตอบรับเเต่เเล้วก็มีเเรงฉุดเกิดขึ้นกับผู้ชายร่างเล็กให้ออกไปจากตัวผม ก่อนที่ ใครคนนั้น จะเข้ามานั่งทับตักผมเเทนที่เเล้วกดริมฝีปากร้อนลงมา


"อืม" ผมครางอย่างสุขสมเมื่อลิ้นเล็กของมาร์คยังคงใช้การได้ดีเหมือนเดิม

"ใครบอกให้มา" มาร์คดูดดึงริมฝีปากผม ขบกัดมันเหมือนต้องการจะทำโทษที่เมื่อกี้ผมโลมเลียเขาด้วยสายตา
ผมหัวเราะในลำคอ เขาจะรู้ไหมว่าตัวเองตอนนี้ยั่วขนาดไหน เเต่การที่เขาทำผิดกฎของเรา ผมก็ยังคงต้องลงโทษเขาอยู่ดี


"ฉันจับนายได้'' ผมเปิดปากพูดเมื่อมาร์คละจากปากของผมไปที่ลำคอ

"เเล้วไง?" เขายังคงให้ความสนใจกับร่างกายของผมอย่างไม่ลดละ

"โว้ยๆๆ ถ้าจะปี้กันก็ขึ้นไปข้างบน" เสียงของเเจ็คสันดึงสติของเราทั้งคู่ให้กลับมา มาร์คจิ๊ปากอย่างหงุดหงิดเเล้วลุกขึ้น เขาดึงผมให้ลุกตามก่อนจะลากผมให้เดินไปชั้นบน

เขาจัดการจองที่พักชั่วคราวของสถานบันเทิงเเห่งนี้เเล้วลากผมให้เข้าห้อง

มาร์คจัดการปิดปากผมด้วยริมฝีปากอวบอิ่มสีเเดงของเขา

ผมลูบไล้เอวคอด นวดคลึงไปตามร่างเขา เเล้วหยุดฝ่ามือที่ก้นนิ่ม บีบมันเล่นอย่างนึกสนุก




"อ้า.." ร่างบางครางเสียงหวานเมื่อผมก้มลงไปทำรอยสีเเดงช้ำที่ลำคอของเขา ไล่ต่ำลงมาเรื่อยๆ เสื้อผ้าของเราถูกปลดเปลื้องออกไป ขาเรียวเกี่ยวเอวสอบไว้อย่างหาที่ยึดเหนี่ยวเมื่อจินยองยกตัวมาร์คลอยขึ้น

ร่างสูงอุ้มเขาเข้ามาในส่วนที่เป็นเตียงนอนก่อนจะวางร่างบางลงบนเตียงนุ่มอย่างเเรง เพิ่มสัญชาตญานดิบในตัวได้เป็นอย่างดี ฝ่าเท้าลูบไล้เเผ่นหลังหนา ฝ่ามือก็ปลดตะขอกางเกงของคนบนร่างไปด้วย


"อ้าจินยอง!'' มาร์คร้องเมื่อคนด้านบนดูดดุนอกของเขาจนเจ็บ เเต่เหมือนจินยองจะไม่สนใจ ร่างหนายังคงยุ่งอยู่กับอกเขาราวกับกำลังชิมมาชเมลโล่เเสนหวาน

จินยองดึงกางเกงสเเลคสีดำของร่างบางโยนไปสักที่หนึ่งในห้อง ก่อนจะละจากยอดอกสีสวยเเละการตีตราเป็นเจ้าของร่างบาง เเล้วจัดการกับกางเกงของตัวเองบ้าง

ตาคมเหลือบมองร่างกายขึ้นสีเเดงของคนใต้ร่าง ริมฝีปากเผยอกอบโกยออกซิเจนเข้าปอด หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงให้เม็ดทับทิมล่อตาล่อใจเขาอย่างพึงใจ

"คนทำผิดต้องโดนลงโทษนายว่าไหม" หัวคิ้วของมาร์คผูกเป็นโบว์ทันทีที่เสียงเเหบพร่าเอื้อนเอ่ย

"ผิด?"

"ฉันเห็นกับตาว่านายกำลังจูบผู้หญิงคนอื่น หวังว่านายคงจะยังไม่ลืมข้อตกลงของเรา" มาร์คหน้าเหลอหลาทันที่เมื่อ ข้อตกลง ที่ว่าผุดขึ้นมาในหัว

"จินยอง~" เอ่ยเรียกเเฟนตัวเองเสียงอ่อย เเต่เขาก็ขัดอะไรไม่ได้อยู่ดีในเมื่อ บทลงโทษ ดำเนินมาจนจะจบเเล้ว

"อ้าขามาร์ค" ร่างบางจำยอมอ้าเรียวขากว้างเป็นรูปตัวเอ็ม กัดริมฝีปากอย่างชั่งใจเมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิด

ปราการสุดท้ายคือชั้นในสีขาวถูกถอดออกอย่างไม่ใยดี มาร์คขบฟันเเรงกว่าเดิมเมื่อกลีบปากร้อนรุกล้ำเข้ามาที่ขาอ่อนด้านใน

ความร้อนเเล่นไปตามที่ริมฝีปากของคนรักเคลื่อนผ่านทำเอาสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เเก่นกายที่ชูชันไม่ได้รับการปลดปล่อย เล็บจิกลงบนกลุ่มผมนุ่มระบายความเสียวซ่าน เมื่อร่างหนาทำรอยไว้จนพอใจจึงเงยหน้าขึ้นมามองสำรวจ 'เเบบเเปลน' ที่เขาพึ่งทำเสร็จไปเมื่อครู่

หยิบโทรศัพท์เครื่องบางออกมากดชัตเตอร์เก็บผลงานชิ้นโบเเดงด้วยความพึงพอใจ

"จินยอง~ ฮื้อ ช่วยด้วย" มือเล็กปัดป่ายไปทั้วหวังให้อ้อมอกอุ่นเข้ามากอดรัด ความเสียวซ่านเเล่นอยู่ที่ท้องน้อย

"หึ" จินยองหัวเราะในลำคอเมื่อเพลย์บอยตัวพ่ออย่างมาร์คร้องขอให้เขาช่วย

เเบบนี้ไงถึงได้บอกอย่างมั่นใจได้ว่า เขาสามารถทำให้มาร์คต้วนครางอย่างสุขสมใต้ร่างได้อย่างน่ายินดี

ริมฝีปากร้อนเคลื่อนเข้าไปใกล้เเก่นกายของมาร์ค เเกล้งเอาเเก้มนุ่มลากผ่านเรียกเสียงครางกระเส่าได้เป็นอย่างดี

"ฮื่ออออ อื่อออ อย่าเเกล้ง อึก" ความชื้นที่ร่างบางใฝฝันว่าคนรักจะมอบให้กลับเเทนที่ด้วยความหยาบกร้านของฝ่ามืออย่างที่มาร์คไม่ชอบใจเอาเสียเลย

"อื้อจินยอง ปาก ใช้ปาก" จินยองตอบรับคำขอของมาร์คอย่างว่าง่าย ไม่นานส่วนอ่อนไหวก็เปียกชื้นเเละคับเเน่นในโพลงปากหนา มาร์คยกตัวขึ้นมองกลุ่มผมที่พลิ้วไหวขึ้นลงไปตามจังหวะ ขยุ้มกลุ่มผมสีดำขลับตามเเรงอารมณ์ที่เริ่มก่อตัว สะโพกมนตอบรับจังหวะที่ร่างหนามอบให้ถี่รัว

"อ่า~" เชิดหน้าขึ้นยามเมื่อน้ำรักถูกปลดปล่อย มาร์คบังคับให้จินยองกลืนน้ำของตัวเองลงไป ก่อนจะก้มลงจูบที่หน้าผากของคนตรงหน้าด้วยความรักใคร่

"ตาเราเเล้ว" จินยองปาดคราบสีขาวที่มุมปากออก จัดการอุ้มร่างที่ปวกเปียกของมาร์คให้พิงกับหัวเตียงจัดท่าทางที่ตนพึงพอใจก่อนจะถอดชั้นในให้เห็นเเกนกายที่ตั้งชูชัน

มาร์คอ้าขาออกทันทีอย่างรู้งาน ร่างบางต้องการถูกเติมเต็ม นิ้วชี้ของจินยองกวาดไปทั่วช่องทางรักเรียกเสียงครางที่พึ่งหยุดไปให้กลับมาดังอีกครั้งในห้องสี่เหลี่ยม

"อะอะอะ.." ร้องครางตามจังหวะที่คนรักสอดเเทรกนิ้วเข้ามาโดนจุดกระสัน ริมฝีปากหนาปรนเปรอยอดอกของเขาจนสติพร่ามัว

"อ้ากว้างกว่านี้มาร์ค" จินยองดึงนิ้วออกจากช่องทางนุ่มเมื่อครบสามนิ้ว ก่อนจะเอ่ยสั่งคนที่นอนรอให้เขาเติมเต็มอ้าขาให้ช่องทางรักตอบรับเขาได้มากขึ้น

"อ้า!" จินยองจับเเก่นกายสอดเข้าใส่ในคราวเดียว จนมาร์คร้องออกมาด้วยความเจ็บ

ถึงจะผ่านการเปิดทางมาเเล้วเเต่ของจริงนั้นกลับใหญ่กว่า

"มากกว่านี้มาร์ค มากกว่านี้'' เสียงคนรักร้องขอด้วยเเรงอารมณ์ทำให้ร่างบางอ้าขาเรียวให้กว้างขึ้นเผยให้เห็นรอยเเดงที่ต้นขาด้านใน

''เข้ามาอีก อึก อ้า" ร่างบางร้องขอมีหรือที่จินยองจะไม่ตอบรับ เขาดันสะโพกกระเเทกเข้าไปจนมาร์คร้องเสียงดังลั่น

"อ้ะ อ้ะ อ้ะ จิน อึก อ้ะ"

"อ่า มาร์ค มันเเน่นมาก"

" อึก อึก อ้า อ้ะ"

"ตอดกูชิปหาย" จินยองสบถเมื่อความคับเเน่นมีมากขึ้นทุกครั้งที่มาร์คเกร็งขา ก้มลงเท้าเเขนสองข้างคร่อมตัวมาร์คไว้เป็นหลักยึดก่อนจะซอยสะโพกถี่รัว มือบางยกขึ้นมาคล้องรอบลำคอหนาเอาไว้ก่อนจะซุกหน้าลงกับซอกคอขาว

เสียงหัวเตียงกระทบเข้ากับผนังดังจนน่าตกใจ เเต่กลับไม่ได้ทำให้กิจกรรมในร่มผ้าหยุดอย่างที่ควรจะเป็น

"อึก" เมื่อมาร์คเห็นว่าร่างหนาไม่ได้ให้ความสนใจกับเเก่นกายของตนมากนัก มือบางจึงเลื่อนเข้าไปรูดเเก่นกายของตนจนเป็นจังหวะเดียวกับสะโพกสอบที่กระเเทกเข้ามารัวเร็ว

"จะ อึก เเล้ว มาร์ค มาร์ค"เสียงเรียกชื่อทำให้ปรอทวัดความสุขของมาร์คทะลุจุดขีดสุดจนเเทบสำลักเช่นเดียวกับปาร์คจินยอง

"อ้ะ อ้ะ จินยอง อ้ะ อึก"

"อ้าา"
"เเฮ่ก" น้ำสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อยเข้ามาในตัวของร่างบางจนล้นทะลักไหลออกมาตามเเนวขาขาว

ทั้งสองหอบหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย ร่างบางผลิกตัวขึ้นคร่อมคนรักก่อนจะปล่อยช่องทางนุ่มให้เป็นอิสระ

ป้อก


เกิดเสียงน่าอายขึ้นเรียกความร้อนไปที่ใบหน้าหวานได้เป็นอย่างดี จินยองมองการกระทำของคนรักที่เดินไปที่โต๊ะหัวเตียง หยิบขวดเจลหล่อลื่นที่เขาจงใจไม่ใช้มันขึ้นมา บีบมันลงที่ต้นขาก่อนที่ร่างบางจะกลับมานั่งคร่อมพร้อมส่วนอ่อนไหวของเขาที่หายเข้าไปในช่องทางเดิม

"อีกรอบไหม" มีหรือที่ปาร์คจินยองจะขัด


มาร์คตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพร้อมกับกลิ่นกาเเฟกลิ่นเดิมที่คนคนเดิมชอบดื่ม ร่างบางก้มมองตนเองเเละสภาพรอบห้องที่เหมือนพึ่งผ่านศึกหนักมา พลันความร้อนก็เเผ่ซ่านไปทั่วใบหน้า เมื่อหันไปด้านข้างก็เจอกับกระจกบานใหญ่ มาร์คก้มมองรอยเเดงบริเวณต้นขาอย่างนึกสงสัย เมื่อคืนรู้สึกเหมือนจินยองจะทำอะไรสักอย่างกับมันไม่อย่างนั้นหมอนั่นไม่ยกกล้องขึ้นมาถ่ายเเละกดย้ำบริเวณนี้หลายรอบเป็นเเน่


จัดท่าให้ตัวเองอยู่ในท่าล่อเเหลมก่อนจะต้องตาค้าง รอยรักสีกลีบกุหลาบทั่วตัวยังไม่ทำให้เขาตกใจได้เท่า

ต้นขาด้านในทางด้านขวามีคำว่า


MY


ส่วนด้านซ้ายก็ไม่พ้นคำว่า


MARK


มาร์คนั่งนิ่งอยู่ในท่านั้นนานเท่าไหร่ไม่รู้   รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ฝ่ามือร้อนเจ้าของรอยรักนี้ลูบคำว่า MARK ที่ยังหลงเหลือคราบขาวที่เเห้งติดอยู่อย่างเพลิดเพลิน


Talk

#shademj