วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559

BULLSHIT #MarkJin





-B U L L S H I T-







"นายเคยมีความรักไหม"

เสียงที่เพื่อนสนิทถามเขาดังเข้ามาในโสตประสาท ปาร์คจินยองเเย้มยิ้ม ก่อนเสียงหัวเราะจะตามมา เขามองเพื่อนที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นให้กับผู้ชายเฮงซวยคนนั้นด้วยความสงสาร เสียงหัวเราะที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจะทำลายบรรยากาศอันเเสนอึดอัดนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเลย

"ไม่ นายก็รู้นี่ยองเเจ เเล้วฉันก็ไม่อยากมีมันด้วย"

"ทำไมเขาต้องมีคนอื่น ฮือ" ชเว ยองเเจ สะอื้นอีกครั้ง ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกระลอก จินยองได้เเต่มองดูเพื่อนร้องไห้โดยที่ตนไม่สามารถช่วยอะไรได้

เขาปลอบคนไม่เก่ง เเล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งเเรกที่ยองเเจมาร้องไห้ฟูมฟายถึงผู้ชายคนนั้นให้เขาฟัง ถึงเขาจะปลอบใครไม่เก่งเเต่จินยองก็เป็นผู้ฟังที่ดีเสมอ

"ฉันละไม่เข้าใจนายเลยจริงๆ ทำไมนายถึงยังยึดติดกับหมอนั่นอยู่ นายควรออกจากวังวนนี้ได้เเล้ว"

"ฉันรักเขา นายไม่เข้าใจ ฮึก" ยองเเจพูดประโยคนี้อีกครั้งหลังจากพูดมันมาตลอดหกเดือน

"ใช่ยองเเจ ฉันไม่เข้าใจ ทำไมนายถึงต้องเทิดทูนความรักจอมปลอมที่เเจบอมมันสร้างมาหลอกนายด้วย" จินยองถามเสียงขุ่น เขาไม่อยากเห็นเพื่อนร้องไห้อีก ตลอดหกเดือนที่ผ่านมาเเจบอมทำอะไรให้ยองเเจบ้าง ทำไมเพื่อนของเขาถึงไม่ยอมตัดใจไปจากมันสักที

"ถึงมันจะปลอมเเต่ในความปลอมของมันมีความสุขของฉันอยู่เต็มหน่วย"

"ฉันไม่เข้าใจ" จินยองพูดอย่างอ่อนเเรงเมื่อได้สบกับดวงตาบวมเป่งของเพื่อน ที่บ่งบอกได้ว่าความเสียใจมีมากมายขนาดไหน

"นายควรทิ้งหมอนั่นเเล้วไปหาคนอื่นซะ มีคนต่อคิวรอนายอยู่อีกตั้งหลายคน"

"ทำไมถึงทำร้ายตัวเองเเบบนี้ละยองเเจ" จินยองถามเสียงอ่อน เขานั่งลง ดึงอีกคนเข้ามากอด 

"ไว้สักวันถ้านายมีความรัก นายจะเข้าใจ" ยองเเจบอกเสียงอู้อี้ จินยองไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้น เขาไม่เคยมีความรักเเละไม่อยากจะมีมัน เพราะเขาเห็นเพื่อนของเขาต้องทนทุกข์เพราะเรื่องเเบบนี้มานับไม่ถ้วน จินยองไม่อยากมีสภาพเหมือนคนเหล่านั้น

เเต่พระเจ้าดูเหมือนจะพอใจที่จะได้เห็นเขาอ่อนเเอ

วันหนึ่งพระเจ้าก็เเสดงความใจดีต่อมนุษย์ไร้รักอย่างเขา




.
.
.





"ขอโทษครับ" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างนุ่มนวล จินยองเงยหน้าไปทางต้นเสียง คิ้วสวยโก่งขึ้นเป็นเชิงถามอีกคนว่ามีอะไร

"ไม่ทราบว่านัมเเทฮยอนอยู่บริษัทหรือเปล่าครับ" ชายผมสีทองถามเขาเเล้วยิ้มโชว์เขี้ยวสวย

"ท่านประธานหรือครับ ไม่อยู่ครับ ออกจากบริษัทไปตั้งเเต่เที่ยงเเล้ว" จินยองตอบกลับอีกคนที่เอาเเต่จ้องหน้าเขาไม่วางตา ร่างบางหลบสายตาผู้ชายผมทองคนนั้นเเล้วมาให้ความสนใจกับงานของตัวเองต่อ

"คุณน่ารักจังเลย มีเเฟนหรือยังครับ" ผู้ชายผมทองคนนั้นเอ่ยถามเขาอีกครั้งหลังจากประโยคที่จินยองพูดได้จบลงสักพัก จินยองเงยหน้ามองอีกคนด้วยความไม่เข้าใจ

"เอ่อ ผมหรอครับ"

"ใช่ ผมชื่อมาร์ค เป็นเพื่อนของเเทฮยอน" พูดจบก็ส่งยิ้มที่ทำเอาใจของจินยองเต้นผิดไปหนึ่งจังหวะมาให้

"หืม เดี๋ยวนะครับ ผมว่าเราพึ่งรู้จักกัน" มาร์คหัวเราะ เขาหัวเราะทั้งตาเเละปาก จินยองมุ่ยหน้าด้วยความไม่เข้าใจอีกคน

"คุณน่ะสิพึ่งรู้จักผม จินยอง" จินยองเลิกคิ้วความความสับสนเข้าไปใหญ่

ผู้ชายคนนี้รู้ชื่อเขาได้อย่างไร

"ตกลงมีเเฟนหรือยังครับ จะขอจีบ"

"เอ่อ" จินยองหน้าเหรอหรา เขามองรอบข้างราวกับจะหาคนช่วย เเต่ก็ดันลืมไปว่าที่ตรงนี้คงจะมีเเค่เขากับผู้ชายเเปลกหน้าคนนี้เท่านั้น

ก็นี่มันโต๊ะทำงานของเขาหน้าห้องประธานนี่

"ถ้าไม่ตอบเเสดงว่าอนุญาตนะ"

"...." จินยองมองอีกคนนิ่งๆ สมองกำลังประมวลผลสิ่งที่พึ่งรับรู้

"ดีเลย งั้นไปทานข้าวกันไหม ผมเลี้ยง"

"มะ..ไม่ดีกว่าครับ" จินยองปฏิเสธไม่เต็มเสียง พอเขาจับใจความได้ว่ามาร์คคือเพื่อนของเจ้านายเขา จินยองก็ไม่กล้าปฏิเสธอีกคนทั้งที่เขาควรจะทำมัน

"เอาน่า เดี๋ยวผมบอกเเทฮยอนให้ หมอนั่นไม่ว่าหรอก"

"เอ่อ คือ" มาร์คเดินอ้อมมาจับมือเขาเเล้วดึงให้ลุกขึ้น จินยองลุกตามอย่างว่าง่ายไม่อยากดื้อใส่อีกคน เเต่ก็ยังไม่วายส่งเสียงประท้วง

เขาไม่อยากสร้างพันธะอะไรกับใคร

"เดี๋ยวผมออกเองดีกว่าครับ ไม่ต้องให้คุณมาร์คเลี้ยงหรอก"

"หืม ไม่ได้ๆ ฉันเป็นคนชวนนายฉันก็ต้องออกสิ"

"เเต่ว่า.."

"เอาเถอะๆ ไปถึงที่ก่อนเเล้วค่อยว่ากัน" มาร์คพูดพลางส่งยิ้มให้เขา จินยองก้มหน้า หลบสายตาจากรอยยิ้มของมาร์ค

ไม่ไหว

ถ้าเขามองรอยยิ้มนั้นต้องใจสั่นเเน่ๆ



.
.
.



มาร์คขับรถตรงมายังร้านอาหารที่ค่อนข้างหรู จินยองมองร้านตรงหน้าตาโต เขาลมเเทบจับเมื่อคิดว่าตัวเองต้องจ่ายค่าอาหารสำหรับมื้อนี้ที่นี่

"คุณมาร์ค เปลี่ยนที่ไม่ดีกว่าหรือครับ คือผม.." จินยองหันไปพูดกับมาร์คเสียงอ่อย ก้มหน้าอย่างสำนึกผิด

เขาไม่ควรเรื่องมากให้เพื่อนเจ้านายรำคาญใจสิ

"หึ บอกเเล้วไงว่าเดี๋ยวเลี้ยง" มาร์คพูดพลางเดินเข้ามากอดคอเขาเเล้วพาเดินเข้าภายในร้านอาหาร จินยองได้เเต่เดินตัวลีบข้างเพื่อนเจ้านาย

"อยากกินอะไรก็สั่งเลยนะ" จินยองเปิดเมนูหาอาหารจานที่ถูกที่สุดในร้าน เเต่ก็ต้องเบิกตากว้างกับราคาที่ได้เห็น

ขนาดถูกสุดยังเท่านี้เเล้วเเพงสุดจะเท่าไหน

ดวงตากลมช้อนขึ้นมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามอย่างเกรงใจ เขาสั่งเพียงเเค่สลัดมาหนึ่งจาน เเต่ดูเหมือนมาร์คจะเป็นคนกินจุ หมอนั่นสั่งอาหารมาตั้งสี่ห้าอย่างเพื่อจะมากินคนเดียวหรือ

"จินยองนี่น่ารักเเต่เกิดเลยไหม" หลังจากปล่อนให้ความเงียบเข้าครอบงำพื้นที่สักพักมาร์คก็พูดทำลายความเงียบเหล่านั้น เพื่อนของเจ้านายเขาพูดพลางส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้ จินยองก้มหน้าด้วยความเขินอายกับคำหยอดของอีกฝ่าย

"จินยองจำมาร์คไม่ได้จริงๆหรอ" มาร์คถามเขา จินยองเงยหน้า มองอีกคนด้วยความงงงวย

เขาเคยรู้จักมาร์คมาก่อนหรอ?

"หืม ไม่นะครับ"

"อ่า นั่นสินะ จินยองจะจำมาร์คได้ยังไง ในเมื่อนายดังขนาดนั้น"

"หืม"

"นายจำเด็กเนิร์ดห้องเก้าตอนม.5ได้มั้ย"

"อืมมม" จินยองลากเสียงยาวราวกับกำลังใช้ความคิด พอดีกับที่อีกคนหยิบบางสิ่งจากกระเป๋ากางเกงเเล้วสวมมันที่ใบหน้า

"อี้!" จินยองเรียกอีกคนเสียงดัง เขามองหน้าเพื่อนของเจ้านายด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

"ฮะๆ จำได้เเล้วสินะ"

"อี้! อี้จริงๆด้วย!"

"อื้ม"

"เป็นยังไงบ้าง" จินยองดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่าจนไม่รู้จะถามคำถามไหนก่อน มีเป็นล้านคำถามที่เขาอยากถามอีกคน

"สบายดี กำลังจะเลี้ยงข้าวหมู" มาร์ค หรือ อี้เอิน เพื่อนสมัยมัถยมของเขาพูดพลางหัวเราะ จินยองยิ้มตาหยีให้อีกคน ความเกรงใจก่อนหน้ามลายหายไปทันที

"ไม่เจอกันนานเลย หล่อขึ้นนะเนี่ย" จินยองชมอีกคนเสียงสูง เขากลับมานั่งในท่าสบายๆหลังจากที่รู้ว่ามาร์คคือเพื่อนสมัยเด็กของตน

"เเล้วหล่อจนมัดใจจินยองได้หรือยัง" เเต่คำหยอดที่ตามมาทำเอาจินยองหน้าเหวอ เขามองมาร์คตาค้าง

"อี้...ไม่ได้จะจีบเราจริงๆหรอกใช่ไหม"

"ไม่จีบเเล้วจะพามากินข้าวทำไม"

"อี้อย่าเเกล้งเรานะ"

"ไม่เเกล้ง นี่จริงจัง"

"อี้..."

"จินยองไม่รู้หรอก ว่าฉันคิดถึงนายมากเเค่ไหน ตอนนี้เปิดใจให้ฉันได้หรือยัง ฉันชอบนายมาตลอดห้าปีเลยนะ"

มาร์คเคยชอบเขา เรื่องนี้จินยองรู้ดี เพราะอีกคนเดินเข้ามาบอกเขาซึ่งๆหน้าต่อหน้าคนทั้งโรงเรียน

เเล้วมาร์คก็โดนเขาปฏิเสธ

"ฉันยังคิดถึงเเต่นาย นายไม่รู้หรอกว่าตอนที่ฉันรู้ว่านายเป็นเลขาให้เพื่อนฉัน ฉันดีใจเเค่ไหน"

"อี้..."

"ขอโอกาสให้ฉันได้ไหมจินยอง เปิดใจให้ฉัน"

พอดีกับที่พนักงานนำอาหารมีเสริฟที่โต๊ะ จินยองก้มหน้า ตักผักใบเขียวในจานเข้าปากเงียบๆ เเต่ในสมองของเขาตอนนี้มีเเต่คำพูดของมาร์ค

'ฉันชอบนายมาตลอดห้าปี'

มาร์คยังชอบเขาอยู่อีกหรือ ความรักช่างเป็นเรื่องไร้สาระเเละเข้าใจยาก จินยองคิดเเบบนั้น เขากำลังคิดว่าตอนนี้เขาพร้อมเเล้วหรือยัง

พร้อมที่จะเปิดใจ ขยับพื้นที่ข้างกายให้มีคนเข้ามาเติมเต็มมันได้หรือยัง

เขาพร้อมหรือยังที่จะต้องเผชิญหน้ากับความไร้สาระเเละเรื่องที่เข้าใจยาก

"กินเเค่นั้นจะไปอิ่มอะไรล่ะจินยอง" มาร์คพูดพลางเดินเข้ามายกจานสลัดของเขาไปวางอีกทางเเล้วตักข้าวใส่จานให้ เขามองอีกคนไม่วางตา

เขาพร้อมเเล้วหรือยังที่จะให้มาร์คเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

"กินเยอะๆจะได้โตไวๆ" มาร์คส่งยิ้มให้เขา จินยองมองรอยยิ้มนั้น

รอยยิ้มที่กำลังจะกลายเป็นของเขาคนเดียว



.
.
.



"วันนี้ไปกินข้าวด้วยกันไหมจินยอง" เเจ็คสัน เพื่อนร่วมงานของเขาเดินเข้ามาถาม จินยองมองหน้าเเจ็คสันด้วยความรู้สึกผิดนิดๆ

"โทษที พอดีฉันมีนัดเเล้วน่ะ" เเจ็คสันเลิกคิ้ว ถอยหลังไปสามก้าวเเล้วเอามือทาบอก พร้อมพูดเสียงดังจนเพื่อนร่วมงานคนเอื่นหันมามองเป็นตาเดียว

"โอ้ มาย กอสสสสสส จินยองงี่มีนัด!!!!!"

เล่นใหญ่ เล่นใหญ่เบอร์เเรงมาก

จินยองส่ายหัว ยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยความลำบากใจ

"นายจะเสียงดังทำไม"

"นายมีเเฟนหรอ!" คำถามเดียวของเเจ็คสันเรียกให้หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นราวกับพึ่งออกกำลังกายเสร็จ ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อหากเเต่ริมฝีปากกลับเอ่ยคำที่ตรงกันข้าม

"เปล่า"

"อย่าโกหกเลยจินยอง หน้านายมันกำลังฟ้องฉัน" เเจ็คสันส่งยิ้มล้อเลียนให้เขา จินยองได้เเต่เม้มปากเเน่นเเล้วหยิบกระเป๋าพร้อมเดินออกจากตรงนั้นทันที

"ว่างๆพามาเปิดตัวบ้างน้า~" เสียงตะโกนของเเจ็คสันที่ดังไล่หลังมาเรียกเลือดลมของเขาได้เป็นอย่างดี จินยองหน้าร้อนผ่าว ฝ่ามือบางยกขึ้นมาพัดหน้าตนเองราวกับจะให้มันช่วยคลายความเเดงของใบหน้า

"ฟู่ว" หลังจากที่รอสักพักหัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติ ใบหน้าหายเเดงจินยองก็เดินไปรอมาร์คที่หน้าบริษัท วันนี้เขาขอนัมเเทฮยอนเลิกงานครึ่งวันเพราะอีกคนบอกว่าจะพาเขาไปเที่ยว

"รอนานไหม" ทันทีที่จินยองเข้ามาในรถสีดำของมาร์ค อีกคนก็ถามเสียงอ่อนโยน จินยองยิ้มให้มาร์คเเล้วส่ายหัว

"ไม่เลย"

รอเเค่ครึ่งชั่วโมงเอง

"จินยองอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษไหม" มาร์คถามเขาเสียงนุ่ม จินยองชอบฟังเสียงมาร์ค เขาชอบฟังชื่อของเขาที่อีกคนเรียก มันก็เป็นคำเดียวกับที่คนอื่นใช้เรียกเขา เเต่ทำไมก็ไม่รู้ จินยองกลับคิดว่าพอเป็นมาร์คที่เรียก มันกลับให้ความรู้สึกดีเเบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน


เขาตกลงดูใจกับมาร์คมาสองเดือนกว่าเเล้ว ไม่ถึงขนาดเป็นเเฟน เเต่สถานนะของพวกเขาตอนนี้คำว่า คนพิเศษก็ยังน้อยไป เขาไม่รู้จะหาคำไหนมานิยามความสัมพันธ์นี้ได้

มาร์คไม่อยากให้เขาบอกเรื่องนี้กับเพื่อนในบริษัท เพราะไม่อยากโดนเอาไปพูดถึง ซึ่งจินยองก็เห็นด้วย เขาไม่ชอบโดนมองด้วยสายตาเหยียดๆจากคนอื่นหรอกนะ

มาร์คขับรถพาเขามาที่ทะเล จินยองเดินลงจากรถเเล้วอ้าเเขนออกกว้าง ลมทะเลพัดผ่านร่างกายของเขาไป กลิ่นน้ำทะเลสร้างความสดชื่นให้กับร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการทำงานได้เป็นอย่างดี

"อ้ะ" มาร์คเดินเข้ามากอดเขาจากด้านหลัง จินยองหันไปมองด้านข้างของ 'ว่าที่เเฟน' พร้อมอมยิ้มนิดๆ

"ปล่อยน่ามาร์ค" จินยองดิ้นออกจากอ้อมกอดของอีกคน เเต่มาร์คก็รั้งเขาไว้ในอ้อมอกอุ่น

"ขอกอดหน่อย ชดเชยห้าปีที่รอมานาน" พูดจบริมฝีปากรูปกระจับก็เเตะลงบนหน้าผากเขาเเผ่วเบา จินยองหน้าร้อนทันที เมื่อจมูกโด่งเลื่อนลงมาเอาเปรียบเเก้มของเขา

"งื้อ มาร์ค~" จินยองโวยอีกคนไม่จริงจังนักเมื่อมาร์คเริ้มไล้มือไปตามร่างกายของเขาพร้อมกับจมูกโด่งที่เริ่มซุกไซร้ซอกคอ

"ไปจองโรงเเรมกันเถอะจินยอง มาร์คไม่ไหวเเล้ว" มาร์คหันมาพูดกับเขาใบหน้าเคร่งเครียด จินยองเเย้มยิ้มเขินอายเเล้วตีอีกคนไม่เเรงนัก

"บ้า!"



.
.
.



หลังจากที่มาร์คพาเขาเดินรอบทะเลพร้อมซื้ออาหารให้ทานจนอิ่ม เจ้าตัวก็พาเขามาเดินเล่นที่ถนนคนเดิน จินยองตื่นเต้นไม่น้อย เพราะครั้งล่าสุดที่ได้มาเดินเที่ยวเเบบนี้ก็ตั้งเเต่ตอนเรียนอยู่ ปี 1

"นี่จินยองเเวะร้านนี้ๆ"

"ไม่อาววว จินยองอยากไปร้านนั้น" จินยองยู่ปากอย่างน่ารัก มาร์คยิ้มเอ็นดูให้อีกคนเเล้วเอ่ยเสียงหวาน

"ก็เเวะร้านนี้ก่อน น้า น้าค้าบ"

"งืมๆ ก็ได้" จินยองพยักหน้า อมยิ้มนิดๆเมื่อเห็นมาร์คในท่าทางเเบบนี้

ก็ปกติเวลาเจอกันที่ทำงานมาร์คเอาเเต่หน้านิ่ง เเม้เเต่ตอนเดินผ่านเขายังไม่หันมายิ้มให้เลย จินยองก็อดน้อยใจนิดๆไม่ได้ เเต่ทำอะไรได้ล่ะ ในเมื่อมันเป็นความต้องการของมาร์ค

เเละของเขา..

"นี่จินยองใส่เสื้อตัวนี้ดิ น่ารัก" มาร์คหยิบเสื้อลายกระต่ายมาจากราวเเล้วทาบที่ตัวเขา ก่อนจะหยิบอีกตัวลองขนาดของตัวเอง

"เสื้อคู่หรอ?"

"ใช่!" มาร์คตอบเขาด้วยสายตาวิบวับ จินยองยิ้มให้กับความน่ารักของอีกคนเเล้วลองสวม 'เสื้อคู่' เพื่อวัดขนาดของเสื้อ

อ่า

วันนี้เขายิ้มไปกี่ครั้งเเล้วนะ

ตั้งเเต่ทำงานก็ไม่เคยยิ้มบ่อยขนาดนี้เลย

นี่สินะความรัก

"เมื่อกี้มองใครอะ"

"ป่าว" จินยองมองหน้ามาร์คงงๆ เมื่อกี้หรอ เขาก็มองพนักงานที่หน้าเคาท์เตอร์ไง กะจะเดินไปถามว่ามีเสื้อไซต์อื่นอีกไหมเพราะเขาอยากได้ไซต์ที่ใหญ่กว่านี้

"จะนอกใจมาร์คหรอ ห้ามมองคนอื่นนะรู้ไหม" มาร์คเดินเข้ามาคล้องเเขนกับลำคอเขาเเล้วว่า คิ้วเข้มขมวดเป็นปมก่อนจะก้มลงมาจนใบหน้าห่างจากเขาไม่ถึงคืบ

"งื้อ ไม่นอกใจหรอกน่า"

"ดีมาก น่ารักเเบบนี้ต้องให้รางวัล" พูดจบใบหน้าคมก็ก้มลงมาจุ๊บที่ปากเขาเร็วๆหนึ่งที จินยองหน้าเเดงพร้อมส่งค้อนให้อีกคนวงโต

"จินยองคืนนี้ใส่ตัวนี้นอนนะ" หลังจากที่เขาดูเสื้อคู่ของเราสองคนเสร็จ มาร์คก็หยิบชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวที่บางจนเเทบไม่เห็นเนื้อผ้าขึ้นมาชูต่อหน้าเขา

"ทะลึ่ง!"

มาร์คหัวเราะพร้อมวางชุดลงที่เดิมเเล้วก้มลงกระซิบข้างหูเเดงระเรื่อของจินยอง

"จริงๆก็ไม่ต้องใส่อยู่เเล้วนี่เนอะ"



"จินยองงง กลับกัน มาร์คอยากนอนกอดจินยองเเล้ว"

"อื้ม ก็ได้"

"เย้ คืนนี้จะกอดให้จมอกเลย" มาร์คเน้นคำว่า 'จมอก' จนจินยองหน้าร้อนผ่าว มาร์คเดินจูงมือเขา ความอบอุ่นที่ได้รับจากฝ่ามือของอีกคนกำลังเเผ่มายังหัวใจที่เหี่ยวเฉาของเขา จินยองยกยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะมองฝ่ามือของคนที่กำลังจับกันอยู่ มองไล่ขึ้นไปจนถึงใบหน้าคม


เขารู้เเล้ว


ในตอนนี้..


เขาพร้อมเเล้วที่จะให้มาร์คเดินกุมมือเขาไว้เเบบนี้ตลอดไป



.
.
.




"จินยองอาบน้ำก่อนเลย" มาร์คบอกเขาเเล้วหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้ จินยองยิ้มให้อีกคนเเล้วเดินเข้าห้องน้ำ

"เดี๋ยวจินยอง!" มาร์คเดินมาขวางประตูไว้ทำให้เขาปิดมันไม่ได้ ดวงตากลมช้อนมองอีกคนทำเอามาร์คเเทบคลั่ง

ทำไมจินยองถึงน่ารักได้ขนาดนี้

"อยากได้คนถูหลังให้ไหม"

"บ้า!" จินยองปิดประตูเสียงดังกลบความเขิน เขายิ้มอีกครั้งให้กับความน่ารักของมาร์ค

อ่า

ถ้าเป็นเเต่ก่อนเขาคงกรนด่าอีกคนที่มาทำตัวลามกใส่ เเต่เดี๋ยวนี้เขากลับยิ้มเเละมองว่ามันเป็นการกระทำที่น่ารัก

นี่สินะความรัก

เขาใช้เวลาไม่นานในการอาบน้ำ จินยองเดินออกจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเพราะเขาลืมหยิบเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำด้วย ร่างบางเดินไปที่กระเป๋าเป้เเล้วหยิบชุดนอนออกมาหนึ่งชุด พอหันกลับมาก็เห็นมาร์คกำลังคุยโทรศัพท์อยู่หน้าระเบียง จินยองคิดว่ามาร์คคงคุยเรื่องงาน ไม่อย่างนั้นคงไม่ออกไปคุยที่ระเบียงหรอก ร่างบางคิดพลางสวมกางเกงนอนขาสั้น เเล้วหยิบเสื้อนอนลายทางขึ้นมาสวม เเต่เเล้วก็มีมีปริศนาเข้ามาดึงเสื้อออกจากตัวเขา

คงเรียกว่ามือปริศนาไม่ได้ในเมื่อในห้องนี้มีเเค่เขากับมาร์ค

"ไม่ต้องใส่หรอก"

"มาร์ค" จินยองเรียกอีกคนเสียงเเผ่ว เขาถูกดันจนเสียหลักล้มลงไปกับเตียงกว้าง จินยองมองหน้ามาร์คด้วยเเววตาสั่นกลัว

"จินยองรักมาร์คไหม"

"ระ..รัก" ครั้งเเรก ครั้งเเรกที่ได้ยินคำว่ารักจากปากจินยอง มาร์คเเทบกระโดดดีใจจุดพลุบอกคนทั้งโลกให้รับรู้ว่าในที่สุดจินยองก็บอกรักเขาเเล้ว มาร์คยกยิ้ม เขาก้มลงลดระยะห่างระหว่างใบหน้าของเขากับอีกคน

"เชื่อใจมาร์คนะ"

"อื้อ" มาร์คก้มลงประกบริมฝีปากเขา ร่างโปร่งเเสดงความเป็นเจ้าของเขาทั้งร่างกาย เสียงหวานร้องครางสุขสมเมื่อมาร์คฝากฝักตัวตนเข้ามาในตัวเขาครั้งเเล้วครั้งเล่าจนถึงฝั่งฝัน ร่างทั้งร่างกระตุกเกร็งพร้อมกับการเริ่มใหม่ จินยองยอม 'เชื่อใจ' ตามที่มาร์คบอก เขาเเสดงความรักที่ก่อตัวขึ้นมาในใจให้อีกคนได้รับรู้ผ่านการกระทำเเละเสียงที่ดังจากริมฝีปากอิ่มตลอดทั้งคืน

.
.
.



'ถ้าวันนี้ไปทำงานไม่ไหวก็นอนพักนะ ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ดูเเล พอดีติดประชุม รักนะครับ'

จินยองมองโน๊ตที่เเปะไว้ที่ตัวเตียงด้วยรอยยิ้ม มือบางจับสะโพกตนเองด้วยความเจ็บ พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็ทำเอาใบหน้าหวานขึ้นสี จินยองลุกขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปชำระสิ่งที่มาร์คฝากเอาไว้ในตัวเขา

หลังจากอาบน้ำเสร็จร่างบางก็สั่งอาหารขึ้นมาทาน กดโทรออกหาคนที่ควรจะรู้เรื่องความรู้สึกที่เขามีต่อมาร์คเป็นคนเเรกด้วยรอยยิ้มที่ถูกประดับให้ใบหน้าหวานของอีกคนดูสวยขึ้นอย่างกับนางฟ้า

"ยองเเจ"

'ว่าไง' เสียงของเพื่อนสนิทเขาตอบรับ จินยองอมยิ้มก่อนจะบิดตัวเล็กน้อยเเล้วเอ่ยประโยคต่อมา

"ฉันกำลังมีความรัก"

'จริงหรอจินยอง! กับใคร' ยองเเจดูจะตื่นเต้นมาก ดูจากน้ำเสียงที่เเสดงออกมา จินยองหน้าเเดงก่อนจะพูดชื่ออีกคน

"มาร์ค"

'หืม เพื่อนเจ้านายของนายอะหรอ'

''ใช่"

'ฉันดีใจด้วยนะจินยอง ขอให้นายมีความสุข ไม่ต้องเจอเรื่องเศร้านะ'

"อื้ม ขอบใจนายมากนะ ตอนนี้ฉันเข้าใจเเล้วว่าความรักมันดียังไง" ยองเเจหัวเราะ

'ฉันบอกเเล้ว ความรักเป็นสิ่งสวยงาม เเต่ถ้านายมีเรื่องไม่สบายใจ มาบอกฉันได้ตลอดนะ'

"อื้ม ขอบใจมาก เเล้วนี่กับเเจบอมเป็นยังไงบ้าง"

'ก็ดีนะ ช่วงนี้หมอนั่นดูใส่ใจฉันมากขึ้น มันโอเคมากๆเลย'

"ดีใจด้วยนะ ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องร้องไห้เเล้ว"

เเล้วพวกเขาก็คุยกันอีกพักใหญ่ตามประสาคนไม่เจอกันนาน จินยองก็เพิ่งเข้าใจคำว่า คนมีความรักมักทำให้โลกสดใส ก็ตอนนี้เเหละ ตอนที่เขามองอะไรก็เป็นสีชมพู มองอะไรก็เป็นเรื่องดีไปหมด




'จินยองกลับบ้านเองได้ใช่ไหม มาร์คติดงาน ขอโทษจริงๆที่ไปรับไม่ได้ รักนะครับจินยองงี่♡"



จินยองมองข้อความที่มาร์คส่งมาให้ด้วยความเสียใจนิดหน่อย เขาเเค่คิดว่ามาร์คจะมารับเเล้วเราก็จะได้กินข้าวด้วยกัน เเล้วก็กลับบ้านพร้อมกัน หลังจากวันที่ไปเที่ยวครั้งนั้นเขากับมาร์คก็คุยกันน้อยลง อาจจะเป็นเพราะบริษัทพึ่งเปิดตัวโครงการใหม่ด้วยละมั้ง เลยทำให้มาร์คไม่ค่อยมีเวลาอย่างเดิม จินยองเข้าใจดี ถึงจะคิดถึงอีกคนมากก็เถอะ

"เฮ้ จินยอง เย็นนี้ว่างไหมอะ ไปเลี้ยงส่งชานมินกัน" เเจ็คสันคนเดิมเดินเข้ามาชวนเขา จินยองฉุกคิดนิดหน่อยก่อนจะตอบตกลง

"ไปสิ"

ชางมินเป็นเพื่อนร่วมงานของเขาอีกคนหนึ่ง วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่หมอนั่นจะทำงานที่นี่ เพราะได้ทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ จินยองนั่งรถมาพร้อมกับเพื่อนคนอื่นอีกสี่ห้าคน เขาเดินเข้าไปในร้านที่ช่วยกันเเชร์ค่าอาหารกันเอาไว้

"มาๆนั่งๆเลยครับผม" ชางมินเดินออกมาต้อนรับพวกเขา พวกของจินยองมาเป็นคนสุดท้ายเพราะต้องอยู่เคลียงานกันเยอะนิดหน่อย จินยองยิ้มให้ชางมิน

"ดีใจด้วยนะ ขอให้นายเจอสาวสวยถูกใจเเล้วก็ขอเธอเเต่งงานสำเร็จ"

เสียงหัวเราะจากเพื่อนคนอื่นดังขึ้นเพราะคำเเซวของเเจ็คสัน ชางมินยิ้มอายๆเเล้วพลักเเจ็คสันให้นั่งที่

"เห้ยพวกมึง กูเจอคุณมาร์ควะ" คยู เพื่อนอีกคนที่เดินกลับเข้ามาหลังจากไปเข้าห้องน้ำพูดขึ้น ทุกคนในโต๊ะหันไปมองด้วยความสนใจ เเละเเน่นอน ชื่อที่ทำให้จินยองต้องละมือจากอาหารตรงหน้าก็ถูกยกเป็นหัวข้อสนทนา

"จริงอะ มากับใครวะ"

"มากับสาว น่าจะลูกสาวคิมมินลี ประธานA Group"

"เออ ได้ข่าวมาเหมือนกันว่าสองคนนี้กิ๊กกันอยู่"

"เเต่กูได้ข่าวเด็ดดว่านั้น! มีคนบอกว่าสองคนนี้จะถูกจับให้เเต่งงานกันด้วยวะ" คยูเอาเเก้วทุบโต๊ะเพิ่มระดับความน่าสนใจของเนื้อหา

"ผลประโยชน์ทางธุรกิจ?"

"น่าจะใช่ เเต่กูเห็นช่วงนี้คุณมาร์คตัวติดกับลูกสาวคุณลีตลอดเลยน้า ครั้งที่เเล้วก็เห็นพาไปเดินเที่ยวด้วยกัน"

"ก็ถ้าคุณมาร์คจะชอบก็ไม่เเปลกปะ น่ารักขนาดนั้น"

"ฉันขอไปเข้าห้องน้ำนะ"

ใครจะทนได้กัน มีใครทนได้บ้าง ไม่มีหรอก เขาไม่เชื่อ จินยองไม่เชื่อ ร่างบางเดินออกจากห้องอาหารเเล้วเดินไปทางห้องน้ำ จินยองกำลังคิดว่าจะกลับบ้านเลยเพราะบทสนทนาเมื่อครู่ทำเอาเขาอารมณ์เสียไปเเล้ว

มาร์คชอบลูกสาวคิมมินลีหรอ?

ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้ ก็มาร์คชอบเขานี่

จินยองส่งข้อความบอกเเจ็คสันว่าตนขอกลับบ้านก่อนเเล้วเดินออกมาที่หน้าร้าน หากเเต่ภาพตรงหน้ากลับทำเอาใจของจินยองเต้นช้าลงราวกับจะหยุดเต้น

ภาพมาร์คกำลังจูบผู้หญิงอีกคนในรถทำให้จินยองหน้าชา


ไหนบอกว่าติดงานไง


าวกับมีคมมีดกรีดลงที่หัวใจเขา 

หลังจากที่มาร์คผละออกจากหล่อน เจ้าตัวก็ส่งยิ้มให้พร้อมกับกล่องขนาดเล็กในมือ หญิงสาวเปิดมันออกพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เริ่มประดับใบหน้าสวย

เเต่น้ำตากำลังเปรอะใบหน้าของจินยอง

เขามองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยหัวใจเเตกสลาย

รอยยิ้มของมาร์คที่ส่งให้ผู้หญิงคนนั้นคือรอยยิ้มเเบบเดียวกับที่เขาได้รับ

เเววตาที่มาร์คมองผู้หญิงคนนั้นมาร์คเคยใช้มันมองเขาเเค่คนเดียว

ฝ่ามือที่กำลังลูบเส้นผมของผู้หญิงคนนั้นมาร์คก็เคยใช้มันลูบผมเขา

คำบอกรักที่มาร์คกระซิบที่หูของหล่อนจินยองก็เคยได้รับมัน

จินยองหันหลังให้กับภาพเหล่านั้นพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาตอนไหนก็ไม่รู้ ร่างบางเดินออกไปที่หน้าร้านเเล้วเรียกรถเเท็กซี่บอกที่อยู่กับคนขับไปเเล้วนั่งนิ่งๆ

คิดทบทวนเรื่องทั้งหมด

เขากำลังคิดว่าตอนนี้เขาอยู่ในสถานะไหน

เรื่องราวของเขากับมาร์คมันเป็นเรื่องราวเเบบไหนกันเเน่

เขามีสิทธิหึงหวงหรือถามสถานะจากมาร์คบ้างไหม

จินยองปล่อยโฮออกมาเมื่อเขาเห็นข้อความฉบับใหม่ของมาร์ค เสียงร้องไห้ดังขนาดที่ว่าคนขับรถต้องมองอีกคนด้วยความเป็นห่วง

'ฝันดีนะครับ รักนะจินยอง'

รักหรือ

ความรักมันเป็นเรื่องไร้สาระ



.
.
.



"มาร์ค" จินยองเดินเข้ามาในห้องของมาร์คด้วยดวงตาบวมเป่ง ใบหน้าซีดเซียวราวกับคนไม่ได้นอนมาหลายคืน

ก็ใช่

จินยองไม่ได้นอนมาสองคืนเเล้ว เขานั่งคิดทบทวนเรื่องระหว่างเขากับมาร์คทั้งวันทั้งคืน เขาไม่เข้าใจ ทำไมมาร์คถึงไปจูบกับผู้หญิงคนอื่น ทำไมมาร์คถึงเปลี่ยนไป

"มีอะไรหรือครับคุณปาร์ค"


คุณปาร์ค...


"มีเรื่องจะคุย"

"ตอนนี้ผมไม่ว่าง ขอเชิญคุณออกไปก่อนนะครับ ผมมีธุระ"

"เราต้องคุยกัน"

จินยองเอาตัวบังมาร์คไว้ หลังจากวันที่เขาเห็นภาพบาดตาบาดใจเหล่านั้นมาร์คก็ไม่ได้ติดต่อจินยองมาอีกเลย

นี่เเหละเหตุผลที่เขาร้องไห้จะเป็นจะตาย

"เเต่ผมไม่มีอะไรจะคุยกับคุณนะ" มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงห่างเหิน จินยองมองหน้าอีกคนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

"เเล้วเรื่องของเราละมาร์ค"

"มาร์คคะ"

จินยองหันไปมองอีกทาง ต้นเสียงมาจากหญิงสาวหน้าตาน่ารักที่จูบกับมาร์คในรถเมื่อสองวันก่อน หล่อนถือกล่องข้าวเอามายื่นให้คนตรงหน้าจินยอง ดวงตากลมมองตามการเคลื่อนไหวของหล่อนด้วยความเจ็บปวด

หล่อนเดินเอากล่องข้าวไปวางที่โต๊ะทำงานของมาร์ค หล่อนเดินเข้ามาหอมเเก้มมาร์คทั้งซ้ายเเละขวา เเล้วหล่อนก็จูบปากมาร์คต่อหน้าเขา


จินยองไม่เชื่อ

เขาไม่อยากจะเชื่อ

ไม่จริง


"ยูจองไม่น่ามาให้เสียเวลาเลยครับ ผมกำลังจะออกไปหาพอดี"

"ไม่หรอกค่ะ ยูจองทำอาหารมาให้คุณด้วย เเล้วนี่ใครหรือคะ"

หญิงสาวกอดคอมาร์คก่อนจะหันมาทางจินยอง ร่างบางเดินถอยหลังไปสองก้าว ดวงตาเบิกออกกว้าง ริมฝีปากสั่นระริก

"พนักงานในบริษัทน่ะครับ"


ไม่จริง


น้ำตาหยดเเรกไหลลงตามเเรงโน้มถ่วงโลก จินยองมองอีกคนด้วยเเววตาที่สั่นไหว ริมฝีปากอิ่มซีดเผือดพร่ำพูดคำว่า 'ไม่จริง' อย่างคนไม่อยากยอมรับความจริง

"อ๋อ งั้นก็ช่วยออกไปได้ไหมคะ พอดีสามีภรรยาจะคุยกัน" หล่อนว่าพลางยกมือข้างซ้ายขึ้นมาจนระดับสายตา จินยองมองเเหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของอีกคนด้วยเเววตาสั่นไหวเกินห้าม

"ไม่จริง ฮึก มาร์ค ทำเเบบนี้กับจินยองได้ยังไง ไม่จริงใช่มั้ยมาร์ค!" จินยองวิ่งเข้าไปหาอีกคน ฝ่ามือเล็กหมายจะทุบอีกคนระบายความเจ็บปวดในใจ มาร์คกอดหญิงสาวไว้เเล้วหันหลังรับเเรงทุบจากเขา จินยองน้ำตานองหน้า ริมฝีปากพร่ำถามคำถามที่จับใจความไม่ได้ เเต่พอเขาได้สติ จินยองก็มองภาพตรงหน้าด้วยความเจ็บปวดเเบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เขามองมันด้วยหัวใจที่บอบช้ำ

ภาพที่มาร์คปกป้องหญิงสาวคนนั้นเเทนที่จะเป็นตัวเองเพราะคิดว่าเขาจะทำร้ายหล่อน


หึ


นายมันน่าสมเพศปาร์คจินยอง


จินยองวิ่งออกจากห้องทำงานของมาร์ค ชายหนุ่มวิ่งมาเก็บของที่โต๊ะ เเล้วเดินออกจากบริษัทด้วยน้ำตานองหน้า จินยองในตอนนี้อ่อนเเอเหลือเกิน



.
.
.



"ยองเเจ ฮือออออ" ทันทีที่ประตูเปิดออกจินยองก็ถลาตัวกอดเพื่อนรักทันที เขาปล่อยโฮอย่างไม่อายใคร ยองเเจดูจะตกใจอยู่ไม่น้อย

"เป็นอะไรจินยอง" ยองเเจพยุงร่างที่ไร้เรี่ยวเเรงของเขาเข้ามาในห้อง จินยองร้องไห้หนักมาก จินยองไม่เคยร้องไห้หนักขนาดนี้

"นายเป็นอะไร"

"ฉันรักเขาฮึก ฮือ"

"มาร์คหรอ"

"ฮือออออออ เขาจะเเต่งงานเเล้วยองเเจ เขาจะเเต่งงานเเล้ว"

"ไม่เป็นไรนะจินยอง"

"นายฮึก รู้เรื่อง ฮึก ด้วยหรอ"

"อืม เขาเเถลงข่าวว่าจะเเต่งงานเมื่อวาน นายไม่ได้ดูหรอ"

จินยองปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง ไหล่เล็กสั่นเทา ใบหน้าซีดเผือด จินยองกอดตัวเองเเน่นก่อนจะเงยหน้ามองสิ่งที่เพื่อนเปิดให้ดู

'หวาน! ต้วนอี้เอินประกาศเเต่งงานสายฟ้าเเล่บกับสาวสวย คิมยูจอง'

"ยองเเจ ฉันจะทำยังไงดีฮือ"

"ถอยกลับตอนนี้ยังทันนะ"
"ฮึก ไม่เเล้ว ไม่ทันเเล้ว ฮือ"

"จินยอง" ยองเเจเรียกเพื่อนเสียงเเผ่ว เขาก้มลงกอดปลอบเพื่อน ความเจ็บที่เพื่อนได้รับเขาเข้าใจมันดี

"นายเคยบอกฉันว่านายไม่ชอบพวกร้องไห้ฟูมฟายให้เรื่องความรักไม่ใช่หรือ"

"ฮือ"

"นายกำลังเป็นในเเบบที่นายไม่ชอบนะ หยุดร้องเถอะจินยอง"

"ฮือ"

"เลิกชอบไปซะ ผู้ชายเเบบนั้นน่ะ ถอยตอนนี้ยังทันนะจินยอง"

"ฮึก อย่า..."

"อย่าว่ามาร์ค"

"จินยอง" ยองเเจเรียกเขาเสียงเเผ่ว จินยองมองตาของยองเเจเเล้วว่า

"ฉันรักเขา ฮึก ขนาดที่ว่าเขาทำเเบบนี้กับฉัน ฮึก ฉันก็ยังไม่อยากได้ยินใครว่าเขา ฮือ"


ยองเเจทำได้เเต่กอดปลอบเพื่อน จินยองร้องไห้ในอ้อมกอดเขา ไหล่บางสั่นเทา ยองเเจลูบผมลูบหลังปลอบเพื่อน เขาไม่เคยเห็นจินยองเป็นเเบบนี้ ความรักทำให้คนอ่อนเเอกลับเข้มเเข็ง เเละคนเข้มเเข็งกลับอ่อนเเอได้ง่ายๆ





'ฉันรักเขา นายไม่เข้าใจ ฮึก'

 'ใช่ยองเเจ ฉันไม่เข้าใจ ทำไมนายถึงต้องเทิดทูนความรักจอมปลอมที่เเจบอมมันสร้างมาหลอกนายด้วย'

'ถึงมันจะปลอมเเต่ในความปลอมของมันมีความสุขของฉันอยู่เต็มหน่วย'

'ไว้สักวันถ้านายมีความรัก นายจะเข้าใจ'




คำที่ยองเเจเคยบอกเขา

ตอนนี้จินยองเข้าใจเเล้ว

เข้าใจดี

บางที อาจจะเข้าใจมากกว่ายองเเจในตอนนั้นด้วยซ้ำ


Talk

#shademj สกรีมได้ที่นี่ค่า

                                                                        

1 ความคิดเห็น:

  1. โอ้วววชิท! มาร์คหลอกฟันโอเคลู้เรื่องงงงงงงงง

    ตอบลบ